โรดเรซเอเชียรุ่นมาสเตอร์ ‘นักปั่นสาวไทย’เก็บอีก3เหรียญทอง

ทัพนักปั่นทีมชาติไทยกวาดมาอีก 3 เหรียญทอง จาก จันทร์เพ็ง นนทะสิน, ณภัสสร ปัญญาวุฒิไกร และ รุ่งนภา กุศล ที่ปั่นเข้าเส้นชัยพร้อมกันในโรดเรซ รุ่นมาสเตอร์หญิง ในการแข่งขันจักรยานประเภทถนนชิงแชมป์เอเชีย 2025 สรุปผลเหรียญรวมทีมสองล้อไทยยังรั้งอันดับ 1 ของตาราง ด้วยผลงาน 9 ทอง 2 เงิน 5 ทองแดง ด้าน “โค้ชตั้ม” วิสุทธิ์ กสิยะพัท เผยเหรียญรางวัลทั้งหมดที่นักกีฬาทำได้ขอมอบเป็นของขวัญให้พี่น้องประชาชนชาวไทย ส่วนนักกีฬารุ่นมาสเตอร์ที่คัดเลือกมาติดทีมชาติไทยทำหน้าที่ได้อย่างสมศักดิ์ศรีทุกคน

           การแข่งขันจักรยานประเภทถนนชิงแชมป์เอเชีย 2025 รุ่นประชาชน ครั้งที่ 44, รุ่นเยาวชน ครั้งที่ 31 และจักรยานคนพิการ ครั้งที่ 13 ระหว่างวันที่ 7-16 กุมภาพันธ์ ใช้เส้นทางสนามสราญจิตมงคลสุข ภายในบึงสีไฟ จังหวัดพิจิตร และเส้นทางจังหวัดพิษณุโลก สำหรับการแข่งขันเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ มีพิธีเปิดการแข่งขันรายการโรดเรซ ที่บริเวณหอชมนก ภายในบึงสีไฟ โดยได้รับเกียรติจาก นางสาวธนียา นัยพินิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย พลเอกเดชา เหมกระศรี รองประธานสมาพันธ์จักรยานแห่งเอเชีย (เอซีซี), ประธานสหพันธ์จักรยานแห่งอาเซียน (เอซีเอฟ) และนายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์, นายธนิต ภูมิถาวร รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร, นายกิติพล เวชกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ร่วมในพิธี

          การแข่งขันจักรยานประเภทถนนชิงแชมป์เอเชีย 2025 วันที่ 12 ก.พ.ที่ผ่านมา มีชิง 5 เหรียญทอง จากรายการโรดเรซ รุ่นมาสเตอร์หญิง ปรากฏว่านักปั่นไทย 3 คนจาก 3 รุ่น ปั่นเข้าเส้นชัยพร้อมกัน โดยมีผลดังนี้ รุ่นมาสเตอร์อายุ 30-34 ปีหญิง ระยะทาง 42.80 กม. เหรียญทองตกเป็นของ “เนเน่” น.ส.รุ่งนภา กุศล นักปั่นทีมชาติไทย เวลา 1 ชั่วโมง 4 นาที 45 วินาที เป็นเหรียญทองที่ 2 ของรุ่งนภา หลังจากที่ได้เหรียญทองไทม์ไทรอัลมาแล้ว, เหรียญเงิน “นุ่น” น.ส.กุลนิษฐ์ น้ำใจสุข นักปั่นทีมชาติไทย เวลา 1 ชั่วโมง 15 นาที 13 วินาที, เหรียญทองแดง ทิ เควียน ตรวง จากเวียดนาม เวลา 1 ชั่วโมง 15 นาที 13 วินาที

           รุ่นมาสเตอร์อายุ 35-39 ปีหญิง ระยะทาง 42.80 กม. เหรียญทองเป็นของ “ปอมมี่” น.ส.ณภัสสร ปัญญาวุฒิไกร นักปั่นทีมชาติไทย เวลา 1 ชั่วโมง 4 นาที 45 วินาที และเป็นเหรียญทองที่ 2 ของณภัสสร หลังจากที่ได้เหรียญทองไทม์ไทรอัลมาแล้ว, เหรียญเงิน ลัม คอง จากฮ่องกง เวลา 1 ชั่วโมง 9 นาที, เหรียญทองแดง มินห์ นัม ฟาม จากเวียดนาม เวลา 1 ชั่วโมง 15 นาที 13 วินาที

           รุ่นมาสเตอร์อายุ 40-44 ปีหญิง ระยะทาง 42.80 กม. เหรียญทองเป็นของ พ.ท.หญิง จันทร์เพ็ง นนทะสิน นักปั่นทีมชาติไทย เวลา 1 ชั่วโมง 4 นาที 45 วินาที และเป็นเหรียญทองที่ 2 ของจันทร์เพ็ง หลังจากที่ได้เหรียญทองไทม์ไทรอัลมาแล้ว, เหรียญเงิน โอยุน เออร์ดีน อัลทันคูยาค จากมองโกเลีย เวลา 1 ชั่วโมง 15 นาที 13 วินาที, เหรียญทองแดง ไซนาป ริซวาน จากปากีสถาน เวลา 1 ชั่วโมง 15 นาที 13 วินาที

           รุ่นมาสเตอร์อายุ 45-49 ปีหญิง ระยะทาง 42.80 กม. เหรียญทอง ฮวง คานห์ ลาน โตน จากเวียดนาม เวลา 1 ชั่วโมง 15 นาที 13 วินาที, เหรียญเงิน เออร์เดเนทูยา ดอร์ชิเมด จากมองโกเลีย เวลา 1 ชั่วโมง 15 นาที 13 วินาที, เหรียญทองแดง ทิ ฮัง ฮวง จากเวียดนาม เวลา 1 ชั่วโมง 15 นาที 13 วินาที ส่วน น.ส.อาทิตติยา ปิตานัง นักปั่นทีมชาติไทย ได้ที่ 4 เวลา 1 ชั่วโมง 15 นาที 13 วินาที

           หลังการแข่งขัน “โค้ชตั้ม” วิสุทธิ์ กสิยะพัท หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย เปิดเผยว่า ผลงานของนักกีฬาวันนี้ถือเป็นของขวัญให้พี่น้องชาวไทยที่ติดตามเชียร์พวกเราอยู่ พวกเราทำงานกันมาอย่างหนัก สำหรับนักกีฬารุ่นมาสเตอร์ที่คัดเลือกมาติดทีมชาติ พวกเขามาอย่างสมศักดิ์ศรี ทุกคนโชว์ฟอร์มได้ดีในการแข่งขันจักรยานชิงแชมป์ประเทศไทย ที่สมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ จัดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยทางสตาฟฟ์โค้ชเฝ้าจับตาดูฟอร์มตลอดทั้งปี และทุกคนก็มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ ในวันนี้ก็คว้าเหรียญทองให้กับพี่น้องชาวไทยได้อีก 3 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน รู้สึกดีใจที่นักกีฬาทุกคนทำหน้าที่ได้อย่างสมศักดิ์ศรี สู้อย่างสุดชีวิต และอยากให้นักกีฬามาสเตอร์ชุดนี้เป็นแรงบันดาลใจให้กับอีกหลาย ๆ คน ให้มุ่งมั่นฝึกซ้อมให้ดีเพราะทุกคนก็มีโอกาสที่จะก้าวมาติดทีมชาติได้

           พ.ท.หญิง จันทร์เพ็ง กล่าวว่า รู้สึกดีใจและภาคภูมิใจมาก ที่สามารถคว้าเหรียญทองให้กับประเทศไทย ไม่ว่าตนเองจะลงแข่งในรุ่นไหนก็ตาม ทั้งรุ่นประชาชนและรุ่นมาสเตอร์ ก็จะทำหน้าที่อย่างสุดความสามารถทุกครั้ง ขอขอบคุณสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ ขอบคุณท่านพลเอกเดชา เหมกระศรี ที่ดูแลพวกเรามาอย่างดี รวมทั้งผู้สนับสนุนทุกท่านที่ให้การสนับสนุนการแข่งขันจักรยานประเภทถนนชิงแชมป์เอเชีย 2025 ทำให้พวกเรามีโอกาสได้มาแข่งขันและสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย

           สรุปผลรวมเหรียญรางวัล ตั้งแต่วันที่ 7-12 กุมภาพันธ์ ดังนี้ อันดับ 1 ทีมชาติไทย 9 ทอง 2 เงิน 5 ทองแดง, อันดับ 2 คาซัคสถาน 5-6-0, อันดับ 3 อุซเบกิสถาน 3-0-1, อันดับ 4 เวียดนาม 2-0-3, อันดับ 5 ปากีสถาน 2-1-2, อันดับ 6 อิหร่าน 2-0-0, อันดับ 7 ฮ่องกง 1-3-4, อันดับ 8 สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 1-1-0, อันดับ 9 จีน และ มาเลเซีย 1-0-0, อันดับ 11 มองโกเลีย 0-5-0, อันดับ 12 ญี่ปุ่น 0-3-2, อันดับ 13 อินโดนีเซีย 0-1-1, อันดับ 14 ฟิลิปปินส์, อิรัก, ไต้หวัน และสิงคโปร์ 0-1-0, อันดับ 18 อินเดีย, มาเก๊า และทาจิกิสถาน 0-0-1