เอซีเอฟคิดการใหญ่สองล้อทางไกล ‘ทัวร์ออฟอาเชียน’
สหพันธ์จักรยานแห่งอาเซียน หรือ เอซีเอฟ จัดประชุมใหญ่สามัญ เอซีเอฟ คองเกรส 2024 สมาชิกทั้ง 11 ชาติร่วมประชุมพร้อมเพรียงกัน โดยที่ประชุมมีมติมอบรางวัลเชิดชูเกียรติ “อาเซียน เมอร์ริต อวอร์ด” ให้แก่ นายเอกชัย เศวตสมภพ รองประธานสหพันธ์จักรยานแห่งอาเซียน และอุปนายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ ซึ่งเป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของวงการกีฬาจักรยานไทยมาอย่างยาวนาน รวมทั้ง ดาโต๊ะ อมาจิต ซิงห์ กิล กรรมการบริหารสหพันธ์จักรยานนานาชาติ (ยูซีไอ), รองประธานสมาพันธ์จักรยานแห่งเอเชีย (เอซีซี) และเลขาธิการเอซีเอฟ ที่ผลักดันให้ “ยูซีไอ” รับรองสถานะของเอซีเอฟ ขณะที่แนวทางการพัฒนาวงการกีฬาจักรยานอาเซียน ชาติสมาชิกเห็นชอบแนวทางการร่างกฎระเบียบบาล่นซ์ไบค์ หรือจักรยานหนูน้อยขาไถ ให้เป็นทิศทางเดียวกัน ก่อนจะนำเสนอให้ ยูซีไอ บรรจุเข้าไปอยู่ในหมวดจักรยานเพื่อมวลชน และเตรียมจักศึกใหญ่สองล้อทางไกล “ทัวร์ ออฟ อาเซียน” นอกจากนี้ทุกประเทศพร้อมบรรจุจักรยาน “อาเซียน ซีรีส์” ให้เป็นการแข่งขันระดับนานาชาติและลงปฏิทินประจำปีของแต่ละประเทศต่อไป
นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานที่ปรึกษาฝ่ายสิทธิประโยชน์และหารายได้ ของสมาคมกีฬาจักรยานฯ ให้เกียรติเป็นประธานเปิดการประชุมใหญ่สามัญ ประจำปี 2024 ของสหพันธ์จักรยานแห่งอาเซียน (เอซีเอฟ) หรือ เอซีเอ คองเกรส 2024 พร้อมด้วย “เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี ประธานสหพันธ์จักรยานแห่งอาเซียน และนายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์, ดาโต๊ะ อมาจิต ซิงห์ กิล คณะกรรมการบริหารของสหพันธ์จักรยานนานาชาติ (ยูซีไอ), รองประธานสมาพันธ์จักรยานแห่งเอเชีย (เอซีซี), เลขาธิการสหพันธ์จักรยานแห่งอาเซียน ชาวมาเลเซีย และสมาชิกอาเซียนทั้ง 11 ชาติร่วมประชุม เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน ที่ผ่านมา ที่โรงแรม เดอะ แกรนด์ โฟร์วิงส์ คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ
นายประดิษฐ์ กล่าวว่า “ผมรู้สึก เป็นเกียรติที่ได้มาเป็นประธานพิธีเปิดการประชุมใหญ่สามัญ ประจำปี 2024 ของสหพันธ์จักรยานแห่งอาเซียน (เอซีเอฟ) ในฐานะที่ผมเป็นที่ปรึกษาของสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ ก็ได้มีส่วนรับรู้ รับทราบ และให้การช่วยเหลือในการผลักดันให้สมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ ให้เป็นสมาคมที่มีการพัฒนายิ่ง ๆ ขึ้นไป ผมหวังว่าการประชุมครั้งนี้จะยกระดับให้สมาคมกีฬาจักรยานฯ ให้ดีขึ้นด้วยครับ”
ก่อนเริ่มการประชุมได้มีการมอบรางวัล “อาเซียน เมอร์ริต อวอร์ด” โดยสมาชิกทุกชาติในอาเซียนมีมติมอบรางวัลดังกล่าวให้แก่ นายเอกชัย เศวตสมภพ รองประธานสหพันธ์จักรยานแห่งอาเซียน และอุปนายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ ซึ่งเป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของวงการกีฬาจักรยานไทยมายาวนานถึง 12 ปี ให้การดูแลนักกีฬาจักรยานทีมชาติไทยด้วยดีมาตลอดทั้งการส่งไปแข่งขันต่างประเทศ และการมอบรางวัลตอบแทนนักกีฬาไม่ว่าจะได้เหรียญรางวัลหรือไม่ได้เหรียญรางวัลก็ตาม เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ รวมถึงการสนับสนุนกีฬาจักรยานในอาเซียนจนได้รับการยอมรับจากทุกชาติ ส่วนอีกหนึ่งรางวัลคือ ดาโต๊ะ อมาจิต ซิงห์ กิล เลขาธิการเอซีเอฟ ที่ได้ทำผลงานให้ยูซีไอให้การรับรองสถานภาพของสหพันธ์จักรยานแห่งอาเซียน
สำหรับสาระการประชุม สรุปได้ดังนี้ ที่ประชุมได้หารือแนวทางผลักดันให้การแข่งขันจักรยานอาเซียน ซีรี่ส์ให้เป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขันจักรยานระดับนานาชาติของแต่ละชาติ เพื่อยกระดับมาตรฐานกีฬาจักรยานในภูมิภาค ในรอบปี 2567 โดยสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ จะบรรจุการชิงชัยอาเซียน ซีรี่ส์ ในการแข่งขันจักรยานประเภทลู่ “แทร็ค เอเชีย คัพ 2024” ที่จังหวัดสุพรรณบุรีปลายเดือนสิงหาคม ส่วนประเทศอินโดนีเซีย จะจัดจักรยานเสือภูเขาอีลิมิเนเตอร์ อาเซียน ซีรีส์ ประมาณเดือนกันยายน ในขณะที่เวียดนามจะจัดการแข่งขันจักรยานถนน ไครทีเรียม อาเซียน ซีรีส์ ในเดือนพฤศจิกายนหรือธันวาคม 2567 ส่วนในปีต่อ ๆ ไป ชาติสมาชิกก็จะบรรจุศึกอาเซียนซีรีส์ร่วมไปกับปฏิทินทั้งระดับชาติและระดับนานาชาติแต่ละรายการ
นอกจากนี้ที่ประชุมเห็นชอบในแนวทางการร่างกฎระเบียบ บาลนซ์ไบค์ หรือจักรยานหนูน้อยขาไถ ในส่วนของชาติอาเซียนร่วมกัน โดยอาศัยแนวทางร่วมกันของแต่ละชาติ ไม่ว่าจะเป็นไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ รวมไปถึงประเทศติมอร์ เลสเต ที่เพิ่งจะเริ่มต้นพัฒนาการแข่งขันจักรยานขาไถ จากนั้นเมื่อได้ร่างระเบียบกลางที่จะใช้ร่วมกันแล้ว ก็จะรายงานต่อไปยังสหพันธ์จักรยานนานาชาติ หรือ ยูซีไอ ให้รับทราบต่อไป เพื่อผลักดันให้ยูซีไอพิจารณาบรรจุจักรยานขาไถเข้าเป็นส่วนหนึ่งของสหพันธ์ฯ ซึ่งก็มีความเป็นไปได้ที่ยูซีไอจะพิจารณาบรรจุจักรยานขาไถเข้าไปอยู่ในหมวดจักรยานเพื่อมวลชน หรือ Cycling For All ในอนาคต
หลังการประชุม พลเอกเดชา กล่าวว่า การประชุมสหพันธ์จักรยานแห่งอาเซียนในครั้งนี้เป็นที่น่าพอใจ สมาชิกในอาเซียนเดินทางมาร่วมประชุมครบทั้ง 11 ประเทศ วาระสำคัญในการประชุมอีกอย่างหนึ่งคือการวางแผนพัฒนากีฬาจักรยานในภูมิภาคอาเซียน มีการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันจักรยานชิงแชมป์อาเซียนประเภทต่าง ๆ ทั้งการแข่งขันจักรยานประเภทเสือภูเขา, ประเภทถนน, ประเภทบีเอ็มเอ็กซ์ อีกรายการที่สมาชิกร่วมกันพิจารณาคือการแข่งขันจักรยานทางไกล “ทัวร์ ออฟ อาเซียน” ซึ่งอาจจะเริ่มต้นจากประเทศสิงคโปร์ต่อมายังประเทศมาเลเซีย แล้วเข้ามาประเทศไทยทางจังหวัดสงขลา นักกีฬาก็ปั่นต่อไปถึงจังหวัดหนองคาย ก่อนจะข้ามฝั่งโขงไปยัง สปป.ลาว และเวียดนาม
พลเอกเดชา กล่าวต่อไปว่า อีกประการหนึ่งคือการพัฒนาบุคลากร ซึ่งประเทศไทยจัดการอบรมทั้งอบรมผู้ฝึกสอน อบรมผู้ตัดสิน อบรมช่างซ่อมจักรยาน ล่าสุด สมาคมกีฬาจักรยาน สปป.ลาว ก็ส่งบุคลากรมาร่วมอบรมกับเรา 2 คน จากนั้นก็จะมีการอบรมผู้ฝึกสอนขั้นสูง ทั้งนี้ได้แจ้งให้ทุกประเทศรับทราบแล้วหากมีความประสงค์จะส่งบุคคลากรมาร่วมอบรมเราก็ยินดี ถือเป็นการพัฒนาบุคลากรไปด้วยกัน ขณะที่การแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพช่วงเดือนธันวาคม 2568 ทางสหพันธ์จักรยานแห่งอาเซียน หรือ เอซีเอฟ จะเป็นองค์กรที่กำหนดกติกาและรายการที่จะจัดแข่งขันทั้งหมด ก่อนหน้านี้ต้องให้สมาพันธ์จักรยานแห่งเอเชีย หรือ เอซีซี เป็นผู้กำหนด เนื่องจากเอซีเอฟได้รับการรับรองสถานะจากยูซีไอเรียบร้อยแล้ว พร้อมทั้งได้มอบให้เอซีเอฟดูแลการแข่งขันมหกรรมกีฬาซีเกมส์ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป รวมถึงการแข่งขันรายการอื่น ๆ ที่จะเกิดขึ้นด้วย
