20 Dec 2024

‘เสธ.หมึก’เดินสายประชุมเตรียมความพร้อม ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 9-12 ม.ค.นี้

T08อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ1

อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ

พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ เตรียมนำคณะเดินทางประชุมเตรียมความพร้อมการจัดการแข่งขันจักรยานทางไกลนานาชาติ “ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2024” ระหว่างวันที่ 9-12 มกราคม 2567 ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดที่มีเส้นทางการแข่งขันผ่านและจังหวัดที่นักกีฬาพักแรม พร้อมด้วยแม่ทัพภาคที่ 3, ผู้บัญชาการตำรวจภาค 6, ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด, สาธารณสุขจังหวัด, สำนักศิลปากรที่ 6, กรมอุทยานแห่งชาติ, หน่วยงานราชการต่าง ๆ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อวางแนวทางการจัดการแข่งขันให้ได้มาตรฐานของ สหพันธ์จักรยานนานาชาติ หรือ ยูซีไอ และเพื่อความปลอดภัยของนักกีฬา 

          “เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี ประธานสหพันธ์จักรยานแห่งอาเซียน (เอซีเอฟ) และนายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า ตามที่สมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ เตรียมจัดการแข่งขันจักรยานทางไกลนานาชาติ “ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2024” ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ระหว่างวันที่ 1-10 เมษายน 2567 ซึ่งมีการลงทะเบียนกับสหพันธ์จักรยานนานาชาติ (ยูซีไอ) ในระดับ 2.1 โดยประเภททีมชายแข่งขัน 6 สเตจ ระหว่างวันที่ 1-6 เมษายน เส้นทางในจังหวัดพิษณุโลก-อุตรดิตถ์-สุโขทัย-กำแพงเพชร-พิจิตร-นครสวรรค์-เพชรบูรณ์ ระยะทางรวม 992.95 กิโลเมตร ส่วนทีมหญิง แข่งขัน 3 สเตจ ระหว่างวันที่ 8-10 เมษายน เส้นทางในจังหวัดพิษณุโลก-อุตรดิตถ์-สุโขทัย-เพชรบูรณ์ ระยะทางรวม 257.70 กิโลเมตร รวมระยะทั้งสิ้น 1,250.65 กิโลเมตร

          พลเอกเดชา กล่าวว่า การจัดการแข่งขันจักรยานทางไกลนานาชาติ “ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2024” จัดขึ้นเพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุ 69 พรรษา ในวันที่ 2 เมษายน 2567 ดังนั้นตนเองจึงเตรียมนำคณะเจ้าหน้าที่ของสมาคมกีฬาจักรยานฯ เดินทางไปประชุมเตรียมความพร้อมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดที่เป็นเส้นทางผ่านและจังหวัดที่นักกีฬาพักแรม โดยมีหัวหน้าหรือผู้แทนจากส่วนราชการ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เข้าร่วมประชุมด้วย เช่น ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6, แม่ทัพภาคที่ 3, ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด, ตำรวจท่องเที่ยว, ตำรวจทางหลวง, สาธารณสุขจังหวัด, ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, ผู้อำนวยการการกีฬาแห่งประเทศไทย, ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด, วัฒนธรรมจังหวัด, สำนักศิลปากรที่ 6, กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช, นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด, นายกองค์การบริหารส่วนตำบล, นายกเทศมนตรีต่าง ๆ รวมถึงมูลนิธิหรืออาสาสมัครกู้ภัยในแต่ละจังหวัด 

           พลเอกเดชา กล่าวว่า การประชุมเตรียมความพร้อมดังกล่าวจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 9-12 มกราคม เพื่อวางแนวทางการจัดการแข่งขันให้เป็นไปตามมาตรฐานของ ยูซีไอ ซึ่งได้รับการชื่นชมจากนานาชาติมาโดยตลอด และเพื่อความปลอดภัยของนักกีฬา อีกทั้งให้เพื่อพี่น้องประชาชนได้มีส่วนร่วมในการจัดการแข่งขัน เริ่มจากวันที่ 9 มกราคม ที่จังหวัดพิจิตร ณ ห้องประชุมหลวงพ่อเพชร ศาลากลางจังหวัดพิจิตร เวลา 09.30 น. โดยมี นายอดิเทพ กมลเวชช์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ให้เกียรติเป็นประธาน ซึ่งจะมีการหารือถึงการจัดการแข่งขันจักรยานประเภทถนนนานาชาติรายการ “บึงสีไฟ วันเดย์ เรซ” ที่จะแข่งขันในวันที่ 30 มีนาคม เพิ่มเติมด้วย,วันที่ 10 มกราคม ที่จังหวัดพิษณุโลก ณ ห้องประชุมวังธารา ชั้น 1 โรงแรม ดิ อิมพีเรียล โฮเทล แอนด์ คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ จังหวัดพิษณุโลก เวลา 09.30 น. โดยมี นายภูสิต สมจิตต์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ให้เกียรติเป็นประธาน

          วันที่ 11 มกราคม ที่จังหวัดสุโขทัย ณ หอประชุม 109 ปี โรงเรียนสุโขทัยวิทยาคม จังหวัดสุโขทัย เวลา 09.30 น. โดยมี นายสุชาติ ทีคะสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย เป็นประธาน พร้อมด้วย นายศิริวัฒน์ บุปผาเจริญ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ และ นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร เป็นประธานร่วม,วันที่ 12 มกราคม ที่จังหวัดเพชรบูรณ์ ณ ห้องประชุมซันชายน์ ฮอลล์ ชั้น 2 โรงแรมเอสอาร์ เรสซิเดนซ์ จังหวัดเพชรบูรณ์ เวลา 09.30 น. โดยมี นายกฤษณ์ คงเมือง ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ให้เกียรติเป็นประธาน พร้อมด้วย นายทวี เสริมภักดีกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ เป็นประธานร่วม

          “ในการแข่งขันทุกปีที่ผ่านมา สมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้ประชุมเตรียมความพร้อมกับจังหวัดที่เป็นเจ้าภาพร่วมเพื่อทำความเข้าใจในเรื่องต่าง ๆ ทั้งด้านพิธีการเปิดการแข่งขัน ด้านการขออนุญาตใช้สถานที่จัดงาน ด้านการบริหารจัดการจราจรของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ต้องมีการปิดถนนเป็นบางช่วงบางเวลา ซึ่งจะต้องมีผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนให้น้อยที่สุด ด้านสาธารณสุขที่จะคอยดูแลเวลาที่นักกีฬาเกิดการบาดเจ็บหรือมีอาการป่วยในช่วงที่มีการแข่งขัน รวมไปถึงการจัดรูปขบวนนักกีฬา การต้อนรับขบวนนักกีฬาตลอดเส้นทางซึ่งต้องประสานกับ อบต. เทศบาล และหน่วยงานราชการต่าง ๆ ซึ่งสมาคมกีฬาจักรยานฯ จะได้รับคำชมจากหัวหน้าผู้ตัดสินที่ได้รับการแต่งตั้งจากสหพันธ์จักรยานนานาชาติ ว่าเป็นการแข่งขันที่ได้มาตรฐาน มีประสิทธิภาพ และเป็นไปด้วยความเรียบร้อยทุกประการแสดงให้เห็นถึงการเตรียมความพร้อมเป็นอย่างดีในทุก ๆ ด้าน” พลเอกเดชา กล่าว

          “เสธ.หมึก” เปิดเผยอีกว่า นอกจากนี้การแข่งขันจักรยานทางไกลนานาชาติ “ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2024” เป็นการจัดการแข่งขันที่เน้นถึงกีฬาเพื่อความเป็นเลิศ และเป็นกีฬาอาชีพ รวมทั้งเป็นการจัดการแข่งขันกีฬาเชิงท่องเที่ยว หรือ หรือ “สปอร์ต ทัวริซึ่ม” เพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ โดยสมาคมกีฬาจักรยานฯ กำหนดเส้นทางการแข่งขันผ่านโบราณสถานที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโก ให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม ได้แก่ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร และอุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์ ที่เพิ่งได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกแห่งที่ 4 ของไทย นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น พระราชวังจันทน์ และวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดพิษณุโลก, วัดพระแก้ว จังหวัดกำแพงเพชร, เกาะหัวใจ ทุ่งทะเลหลวง จังหวัดสุโขทัย และบึงสีไฟ จังหวัดพิจิตร เป็นต้น การจัดการแข่งขันครั้งนี้จึงเป็นการร่วมเฉลิมฉลองการเป็นมรดกโลกแห่งใหม่ของประเทศไทย อีกทั้งเป็นการสนองนโยบายส่งเสริม “การท่องเที่ยวเมืองรอง” ของรัฐบาล และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เป็นการร่วมรณรงค์ยกระดับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยให้เติบโตยิ่งขึ้น

          นายกสองล้อไทย กล่าวต่อไปว่า ขณะเดียวกันการแข่งขันจักรยานทางไกลนานาชาติครั้งนี้ใกล้กับช่วงเทศกาลสงกรานต์ซึ่งยูเนสโก ก็ได้ประกาศขึ้นทะเบียนให้เป็นรายการในบัญชีตัวแทนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ (Representative List of the Intangible Cultural Heritage of Humanity) เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา ดังนั้นนับเป็นโอกาสอันดีที่จะได้เผยแพร่วัฒนธรรมประเพณีของไทย สมาคมกีฬาจักรยานฯ จึงเตรียมจัดงานสงกรานต์ โดยให้นักกีฬาและเจ้าหน้าที่ประจำทีมจากชาติต่าง ๆ ได้ร่วมรดน้ำดำหัวและร่วมสนุกกับประเพณีสงกรานต์ของไทย เป็นการสนองนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ของรัฐบาลอีกทางหนึ่ง