เพลย์ออฟซิวแอลพีจีเอ ‘จัสมิน’เผยไม่คิดว่าจะกลับมาชนะอีกครั้ง

จัสมิน สุวัณณะปุระ (ภาพ: LPGA/Getty Images)
จัสมิน สุวัณณะปุระ เฉือน ลูซี ลี สาวอเมริกันที่หลุมสองของการเพลย์ออฟ หลังทำสกอร์รวมเท่ากันที่ 17 อันเดอร์พาร์ 196 คว้าแชมป์แอลพีจีเอรายการที่สามในอาชีพ ในรายการวอลมาร์ท เอ็นดับเบิลยู อาร์คันซอ แชมเปียนชิพ พรีเซ็นเต็ด บาย พี แอนด์ จี ชิงเงินรางวัลรวม 3 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 99 ล้านบาท ที่สนามพินเนเคิล กอล์ฟ คลับ ชานเมืองรอดเจอร์ส รัฐอาร์คันซอ สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา
รอบสุดท้ายเทื่อวันที่ 30 ก.ย.ที่ผ่านมาตามเวลาในประเทศไทย จัสมิน สุวัณณะปุระ ซึ่งสัปดาห์นี้ได้ ไมเคิล โธมัส สามีมารับหน้าที่แบกถุงให้เธอ ทำเบอร์ดี้ที่หลุม 1, 2, 6, 10, 11, 13, 14 และ 16 ก่อนจะปิดหลุม 18 ด้วยอีเกิ้ลแบบไม่เสียโบกี้แม้แต่หลุมเดียว ขึ้นคฃับเฮ้าส์ด้วยสกอร์ 10 อันเดอร์พาร์ 61 ต่ำที่สุดต่อรอบในการเล่นอาชีพของเธอ สกอร์รวม 17 อันเดอร์พาร์ 196 เท่ากับ ลูซี ลี จากสหรัฐอเมริกา ที่ร้อนแรงกว่าจาก 11 อันเดอร์พาร์ 60 นับเป็นสกอร์ต่ำที่สุดของรายการนี้

การเล่นเพลย์ออฟหลุมแรกใช้หลุม 18 พาร์ 5 โดยทั้งสองคนยันกันด้วยเบอร์ดี้ต้องไปเล่นต่อหลุมที่สองใช้หลุมเดิมซึ่งครั้งนี้ สาวจากประเทศไทย ทำอีเกิ้ลชนะไปคว้าแชมป์ไปครองเป็นแชมป์ครั้งแรกในปีนี้ และเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2019 รับเงินรางวัล 450,000 ดอลลาร์หรือประมาณ 14.5 ล้านบาท นับเป็นแชมป์ที่สามในการเล่นอาชีพแอลพีจีเอ ทัวร์ ต่อจากรายการมาราธอน คลาสสิก (เดนา โอเพ่น ในปัจจุบัน) เมื่อปี 2018 และรายการทีมสองคน ดาว เกรท เลค เบย์ อินวิเท ชันแนล (ปัจจุบันดาว แชมเปียนชิพ) คู่กับซีดนีย์ แคลนทัน จากสหรัฐอเมริกา เมื่อปี 2019
ชัยชนะรายการนี้ทำให้ จัสมิน เป็นนักกอล์ฟไทยคนที่ห้าที่คว้าแชมป์แอลพีจีเอทัวร์ในปี 2024 ต่อจาก ปภังกร ธวัชธนกิจ (ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์), อาฒยา ฐิติกุล (ทีมดาว แชมเปียนชิพ), ชเนตตี วรรณแสน (เดนา โอเพ่น) และ โมรียา จุฑานุกาล (พอร์ทแลนด์ คลาสสิก) และเป็นคนไทยที่สี่ที่คว้าแชมป์อย่างน้อย 3 รายการในการเล่นอาชีพแอลพีจีเอ ทัวร์ร่วมกับ อาฒยา ฐิติกุล (3), โมรียา จุฑานุกาล (3) และ เอรียา จุฑานุกาล (12)
โปรสาววัย 31 ปี จากจังหวัดชลบุรี เผยว่า “การเล่นเพลย์ออฟกับ ลูซี ลี ไม่ง่ายเลย พอใจกับการเล่นและเล่นตามเกมตัวเอง แล้ววันนี้ก็สามารถทำได้ มีความสุขมาก อีกอย่างแชมป์นี้มันนานมากเลย เคยคิดว่าอาจไม่สามารถกลับมาคว้าแชมป์ได้อีกครั้ง แต่วันนี้ทุกอย่างก็มาถูกที่ถูกเวลาและที่สำคัญคือสามีที่มาเป็นแคดดี้ให้ด้วย”
ส่วนผลงานนักกอล์ฟสาวไทยคนอื่น ๆ ที่ผ่านตัดตัวเข้าไปเล่นในวันสุดท้าย อาภิชญา ยุบล ทำ 5 อันเดอร์พาร์ 66 รวม 14 อันเดอร์พาร์ 199 จบอันดับสี่ร่วมรับเงินรางวัล 139,305 ดอลลาร์หรือราว 4,508,675 บาท, อาฒยา ฐิติกุล อดีตแชมป์รายการนี้เมื่อปี 2022 ทำ 4 อันเดอร์พาร์ 201 จบอันดับเจ็ดร่วม รับเงินรางวัล 68,824 ดอลลาร์หรือราว 2,227,523 บาท ปาจรีย์ อนันต์นฤการ ทำ 1 อันเดอร์พาร์ 70 รวม10 อันเดอร์พาร์ 203 จบอันดับสิบเจ็ดร่วม รับเงินรางวัล 35,441ดอลลาร์หรือราว 1,147,065 บาท