21 Dec 2024

หลากสีสันกับ 4 แชมป์พีจีเอทัวร์ในเดือนมกราคม

pga07022403

เกรย์สัน เมอร์เรย์ (ภาพ: Getty Images)

พีจีเอทัวร์ 2024 เปิดฤดูกาลแบบตรงตามปีปฎิทินเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี และผ่านเดือนแรกของซีซั่นด้วยชัยชนะของ คริส เคิร์ก, เกรย์สัน เมอร์เรย์, นิค ดันแล็ป และ มัตเตอู ปาวอน ซึ่งแต่ละคนมีเรื่องราวและเส้นทางสู่ความสำเร็จแตกต่างกันไป

คริส เคิร์ก (ภาพ: Getty Images)

คริส เคิร์ก ร่ายเวทมนต์ด้วยเหล็กห้าก่อนชนะ เดอะ เซนทรี

หลุม 17 ของแพลนเตชั่น คอร์ส แอต คาปาลัว เป็นหลุมพาร์ 4 ลงเนินระยะ 548 หลาที่งดงาม แต่การแข่งขันรอบสุดท้ายซ่อนความอำมหิต โดนระยะแอพโพรชเฉลี่ยที่หลุมดังกล่าวในรอบสุดท้ายอยู่ที่ 28 ฟุต 10 นิ้วถึงธง

ทว่าสำหรับ คริส เคิร์ก เขายักไหล่ แม้กระแสลมจะเปลี่ยนแปลงและต้องเปลี่ยนแผนจากที่จะใช้เหล็กเจ็ดเปลี่ยนมาหยิบเหล็กห้า ก่อนที่หนุ่มอเมริกันวัย 38 ปีจะแอพโพรชขึ้นไปออนห่างธงเพียง 1 ฟุต ใกล้ที่สุดในรอบสุดท้าย

เบอร์ดี้หลุม 17 การันตีแชมป์พีจีเอทัวร์รายการที่ 6 ในอาชีพของ เคิร์ก เขาเฉือนชนะ ซาฮิธ ธีลากา 1 สโตรก พัตต์นั้นเป็นเบอร์ดี้ที่ 30 จากทั้งหมด 72 หลุม มากที่สุดในอาชีพของนักกอล์ฟผู้มีวาจานุ่มนวลจากจอร์เจีย ถ้านับเฉพาะหลุมพาร์ 4 ทั้งสัปดาห์เขากดไป 16 อันเดอร์ ดีที่สุดในสนามและมากที่สุดเป็นอันดับสองในบรรดาผู้ชนะเซนทรีนับตั้งแต่ปี 1999

เกรย์สัน เมอร์เรย์ (ภาพ: Getty Images)

เกรย์สันเมอร์เรย์ยืนหยัดด้วยพัตเตอร์ก่อนผงาดโซนี่ โอเพ่น ในฮาวาย

เกรย์สัน เมอร์เรย์ เริ่มต้นที่ วายอาแล คันทรี คลับ ไม่ดีนักจาก 3 โบกี้ในการเล่น 5 หลุมแรก แต่สถานการณ์เปลี่ยนไปเมื่อเขาเก็บเบอร์ดี้แรกของวันที่หลุม 9 พาร์ 5 ที่พาเขาไปคว้าแชมป์พีจีเอทัวร์รายการที่สองในอาชีพในที่สุด

เฉพาะที่หลุมพาร์ 5 ซึ่งมีเพียงแค่สองหลุมที่ วายอาแล นั้น เมอร์เรย์ ทำไปทั้งหมด 9 อันเดอร์ ซึ่งรวมถึงเบอร์ดี้ที่หลุม 18 ในรอบสุดท้ายที่ทำให้เขาได้เข้าไปดวลซัดเดนเดธเพลย์ออฟกับ คีแกน แบร็ดลีย์ และ อัน เบียง ฮุน

ที่หลุมเพลย์ออฟ เมอร์เรย์ ลากเบอร์ดี้ระยะ 38 ฟุต 7 นิ้วลงไป ขณะที่คู่แข่งอีก 2 คนพลาดพัตต์ระยะ 17 และ 4 ฟุตอย่างไม่น่าเชื่อ ทำให้ เมอร์เรย์ คว้าแชมป์ไปครอง โดยตลอดทั้งสัปดาห์เขาทำสกอร์รวม 14 อันเดอร์ ก่อนชนะซัดเดนเดธเพลย์ออฟในที่สุด

นิค ดันแล็ป (ภาพ: Getty Images)

ชัยชนะที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของ นิค ดันแล็ป ในดิ อเมริกัน เอ็กซ์เพรส

อาจจะไม่เกิดขึ้นบ่อย แต่ไม่ใช่ไม่เคยมีกับการที่นักกอล์ฟสมัครเล่นก้าวขึ้นมาคว้าแชมป์ระดับอาชีพในพีจีเอทัวร์ 

ชัยชนะของ นิค ดันแล็ป ใน ดิ อเมริกัน เอ็กซ์เพรส ทำให้เขากลายเป็นนักกอล์ฟสมัครเล่นคนที่ 9 ที่ชนะพีจีเอทัวร์ นับตั้งแต่ปี 1940 เป็นต้นมา และเป็นคนแรกนับตั้งแต่ ฟิล มิคเคลสัน ชนะ นอร์เธิร์น เทเลคอม โอเพ่น 1991 ซึ่งเกิดขึ้น 12 ปีก่อนที่ ดันแล็ป จะลืมตามาดูโลก

ด้วยวัย 20 ปีกับ 29 วัยทำให้ ดันแล็ป เป็นแชมป์พีจีเอทัวร์ที่อายุน้อยที่สุดเป็นอันดับเจ็ด และเป็นสมัครเล่นที่อายุน้อยสุดที่ชนะนับตั้งแต่ ชิค อีแวนส์ คว้าแชมป์เวสเทิร์น โอเพ่น เมื่อปี 1910

จากชัยชนะ ดันแล็ป นักศึกษาปี 2 ของ ยูนิเวอร์ซิตี  ออฟ อลาบามา ตัดสินใจเทิร์นโปรในสัปดาห์ถัดมา หลังจากที่เขาขยับขึ้นเป็นหมายเลขหนึ่งบนตาราง พีจีเอทัวร์ ยูนิเวอร์ซิตี และที่สำคัญ เขาได้สิทธิเล่นในพีจีเอทัวร์จนกระทั่งสิ้นสุดฤดูกาล 2026

ที่น่าสนใจ ดันแล็ป เพิ่งลงเล่นพีจีเอทัวร์เพียงรายการที่สี่เท่านั้นกอนจะคว้าแชมป์ไปครอง มีเพียง 5 คนเท่านั้นในประวัติศาสตร์ที่ลงเล่นพีจีเอทัวร์น้อยรายการกว่าเขาและคว้าแชมป์ได้ และที่น่าสนใจกว่านั้นคือก่อนจะคว้าแชมป์แรก เจ้าของแชมป์ยูเอส อเมเจอร์ ตกรอบทั้ง 3 รายการที่เขาลงเล่น

ผลงานที่ยอดเยี่ยมของ ดันแล็ป เกิดขึ้นในรอบสามที่ ลาควินตา คันทรี คลับ ที่เขาทำมา  60 จาก 10 เบอร์ดี้ 1 อีเกิล เป็นสถิตินักกอล์ฟสมัครเล่นที่ทำสกอร์ต่ำสุดในพีจีเอทัวร์เทียบเท่ากับ แพทริก แคนต์เลย์ ที่คว้าแชมป์ไปแล้ว 8 รายการรวมถึงเฟดเอ็กซ์คัพ 2021 ซึ่งสกอร์ต่ำสุดที่ แคนต์เลย์ ทำคือ 10 อันเดอร์ในรอบสองของรายการทราเวลเลอร์ส แชมเปียนชิพ 2011

ในสามรอบแรก ดันแล็ป เสียไปเพียง 1 โบกี้ ก่อนเข้ารอบสุดท้ายที่เปลี่ยนชีวิตนั้นเขานำ 3 สโตรก ที่สุดแล้ว ดันแล็ป ชนะ 1 สโตรกด้วยสกอร์รวม 29 อันเดอร์พาร์ ต่ำที่สุดในบรรดานักกอล์ฟสมัครเล่นเคยทำได้นับตั้งแต่ปี 1983 ที่สำคัญ ดีกว่าสถิติเดิมถึง 11 สโตรก 

มัตเตอู ปาวอน (ภาพ: Getty Images)

มัตเตอู ปาวอน คว้าแชมป์พีจีเอทัวร์แรกของรวดเร็วในฟาร์เมอร์ส อินซัวแรนซ์ โอเพ่น

มัตเตอู ปาวอน ลงเล่นในยุโรป 7 ปี กว่าจะคว้าดีพีเวิลด์ทัวร์รายการแรกก็ต้องรอถึงเดือนตุลาคม 2023 กับชัยชนะที่สเปน แต่สำหรับในพีจีเอทัวร์เขาไม่ต้องรอนานขนาดนั้นกับแชมป์แรกที่ชนะตั้งแต่ต้นปี 2024 ทั้งๆที่เพิ่งได้รับพีจีเอทัวร์คาร์ดมาหมาดๆ

ปาวอน ที่ลงเล่นพีจีเอทัวร์ในฐานะสมาชิกพีจีเอทัวร์เพียงรายการที่สาม (รวมทั้งหมด 11 รายการ) เก็บเบอร์ดี้ที่หลุม 18 ที่ทอร์รีย์ ไพน์ส คว้าแชมป์ฟาร์เมอร์ส อินซัวแรนซ ไปครองสำเร็จ เทียบกับ ดีพีเวิลด์ทัวร์ เขาต้องลงเล่น 185 รายการกว่าจะชนะครั้งแรก

เบอร์ดี้ 5 ฟุตที่หลุมสุดท้ายทำให้เขาจบสกอร์รอบสุดท้าบที่ เซาธ์คอร์ส อันท้าทาย 3 อันเดอร์พาร์ 69  สกอร์เฉลี่ยสามวันของ ปาวอน ที่เซาธ์คอร์ส นั้นอยู่ที่ 68.7 เทียบเท่ากับสถิติต่ำสุดในบรรดาผู้ชนะที่ จอน ราห์ม เคยทำไว้เมื่อปี 2003 

ปาวอน คว้าพีจีเอทัวร์คาร์ดจากการจบอันดับแปดบนตารางดีพีเวิลด์ทัวร์ เขาเริ่มซีซั่นด้วยการจบอันดับเจ็ดที่ฮาวาย จากนั้นไปทำ 25 เบอร์ดี้มากที่สุดในอาชีพในรายการ ดิ อเมริกัน เอ็กซ์เพรส และมาเก็บเพิ่มอีก 21 เบอร์ดี้ที่ ทอร์รีย์ ไพน์ส

นักกอล์ฟจากฝรั่งเศสสร้างโอกาสให้กับตนเองอย่างมากมายที่เซาธ์คอร์สด้วยการตีออนกรีนตามเรกูเลชั่นถึง 40 จากทั้งหมด 54 กรีน นอกจากนั้นยังเป็นอันดับหนึ่งของรายการนี้ที่พัตต์จากระยะเกิน 20 ฟุตลงไปถึง 7 หลุม