‘วิภาวี’ คว้าอันดับสาม เสือภูเขาอิลิมิเนเตอร์ชิงแชมป์โลก
วิภาวี ดีคาบาเลส นักปั่นเสือภูเขาทีมชาติไทย คว้าอันดับ 3 ในศึกเสือภูเขา อิลิมิเนเตอร์ ชิงแชมป์โลก ที่ประเทศอินโดนีเซีย ด้าน เสธ.หมึก เผยพอใจที่นักปั่นไทยทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม รวมทั้ง “เมธาสิทธิ์-พูนศิริ-ธนภรณ์” แม้ไม่ได้เหรียญรางวัลแต่สามารถผ่านเข้าสู่รองรองชนะเลิศได้ทุกคน เอาชนะนักปั่นระดับพระกาฬทั้งจากทวีปยุโรป อเมริกา และเอเชียได้อย่างราบคาบ แต่นักปั่นไทยชุดนี้ยังต้องฝึกฝนและพัฒนาทักษะต่อไปเพื่อเป็นกำลังสำคัญในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพในปี 2568
“เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี ประธานสหพันธ์จักรยานแห่งอาเซียน (เอซีเอฟ) และนายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูถัมภ์ เปิดเผยว่า ตามที่สมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้รับหนังสือเชิญจากสหพันธ์จักรยานแห่งประเทศอินโดนีเซีย ให้ส่งนักกีฬาจักรยานเสือภูเขาทีมชาติไทย ไปร่วมการแข่งขันจักรยานเสือภูเขา อิลิมิเนเตอร์ ชิงแชมป์โลก “2024 UCI Moutian Bike Eliminator World Cup” ที่เมืองปาลังการายา ประเทศอินโดนีเซีย โดยสมาคมฯ ได้ส่ง 4 นักปั่นซูเปอร์สตาร์ไปร่วมชิงชัย ประกอบด้วย นักกีฬาชาย 2 คน “เบส” นายเมธาสิทธิ์ บุญเสน่ห์ และ “โตมร” ส.ต.พูนศิริ ศิริมงคล นักกีฬาหญิง 2 คน “เพ็ชร์” จ.อ.หญิง วิภาวี ดีคาบาเลส และ “ใบเฟิร์น” น.ส.ธนภรณ์ หะหมาน โดยมี จ.อ.เสรี เรืองศิริ เป็นผู้ฝึกสอนและควบคุมทีม
พลเอกเดชา กล่าวว่า สำหรับผลการแข่งขันเมื่อวันอาทิตย์ที่ 19 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ปรากฏว่านักปั่นเสือภูเขาทีมชาติไทยสร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม โดยในรุ่นประชาชนหญิง มีนักปั่นลงแข่งขันทั้งหมด 19 คน จาก 12 ชาติ ซึ่งล้วนแต่เป็นนักปั่นระดับแชมป์ทวีปและอดีตแชมป์โลก มีทั้งนักกีฬาจากบราซิล, ฝรั่งเศส, เนเธอร์แลนด์, เยอรมนี, สเปน, อิตาลี, โรมาเนีย, สวีเดน เป็นต้น ในรอบแรกแข่งขันแบบจับเวลาเพื่อคัดเอานักปั่นที่ทำเวลาดีที่สุดจำนวน 8 คนเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ ปรากฏว่า “เพ็ชร์” จ.อ.หญิง วิภาวี ดีคาบาเลส ทำเวลาเป็นอันดับที่ 2 และ “ใบเฟิร์น” น.ส.ธนภรณ์ หะหมาน ทำเวลาเป็นอันดับที่ 6 ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศทั้งคู่ ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละ 4 คน แล้วคัดเอาผู้ที่ได้อันดับ 1-2 ของแต่ละกลุ่มเข้ารอบชิงชนะเลิศ
นายกสองล้อไทย กล่าวต่อไปว่า เกมการแข่งขันในรอบรองชนะเลิศ วิภาวี กับธนภรณ์ ถูกจัดให้อยู่กลุ่มเดียวกัน จึงต้องมาแข่งขันกันเอง ปรากฏว่า วิภาวีได้อันดับที่ 2 โดยมี ดิดี้ เดอ วรีส์ นักปั่นเนเธอร์แลนด์ ได้อันดับ 1 ส่วน ธนภรณ์ ได้อันดับ 3 ตกรอบไปอย่างน่าเสียดาย ส่วนอีกกลุ่ม ก็มี 2 นักปั่นที่ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ ได้แก่ เมดิสัน บัวเซียร์ จากฝรั่งเศส กับ อัมปาโร ชาปา ยอเรต จากสเปน สำหรับในรอบชิงชนะเลิศ วิภาวีต้องโดนรุมจากนักปั่นทวีปถึง 3 คน แต่ “เจ้าเพ็ชร์” ก็สวมหัวใจนักสู้ ปั่นอย่างสุดแรงก่อนคว้าอันดับที่ 3 มาครอง โดยแชมป์ตกเป็นของ ดิดี้ เดอ วรีส์ นักปั่นเนเธอร์แลนด์ และอันดับ 2 ได้แก่ เมดิสัน บัวเซียร์ จากฝรั่งเศส
“เสธ.หมึก” กล่าวอีกว่า สำหรับรุ่นประชาชนชาย มีนักปั่นระดับพระกาฬลงแข่งขันจำนวน 35 คน จาก 16 ประเทศ ทั้งทวีปยุโรป, ทวีปอเมริกาเหนือ และทวีปเอเชีย เช่น ฝรั่งเศส, สวีเดน, ออสเตรีย, สเปน, โรมาเนีย, นิวซีแลนด์, เยอรมนี, เปอร์โตริโก, ญี่ปุ่น เป็นต้น ซึ่งล้วนแต่ดีกรีระดับแชมป์โลกและแชมป์ทวีปมาร่วมชิงชัย สำหรับนักกีฬาไทย 2 คน “เบส” นายเมธาสิทธิ์ บุญเสน่ห์ และ “โตมร” ส.ต.พูนศิริ ศิริมงคล ในรอบแรกทดสอบเวลาเพื่อคัดนักปั่นจำนวน 32 คน ผ่านเข้ารอบสอง ปรากฏว่า 2 นักปั่นไทยผ่านเข้ารอบทั้งคู่ โดยเมธาสิทธิ์ได้อันดับ 5 และพูนศิริได้อันดับ 18 ส่วนการแข่งขันรอบสองแบ่งออกเป็น 8 กลุ่ม กลุ่มละ 4 คน แล้วคัดเอาคนที่ได้อันดับ 1-2 ผ่านเข้าสู่รอบสาม จำนวน 16 คน ซึ่งทั้งเมธาสิทธิ์และพูนศิริก็ยังทำผลงานได้ดีเข้าอันดับ 2 ผ่านเข้ารอบ 16 คนต่อไป
“ในรอบ 16 คน เมธาสิทธิ์และพูนศิริ ยังโชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยม เอาชนะนักปั่นจากฝรั่งเศส, โรมาเนีย, มาเลเซีย ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศสำเร็จ แต่ในรอบนี้นักปั่นไทยทั้ง 2 คน เข้าอันดับ 3 พลาดเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศอย่างน่าเสียดาย โดยแชมป์เป็นของ ล็อคแลน บราวน์ นักปั่นจากนิวซีแลนด์ อันดับ 2 ริยาร์ด ฮาคิม นักปั่นสิงคโปร์ และอันดับ 3 ธีโอ เฮาเซอร์ นักปั่นออสเตรีย ส่วนรอบจัดอันดับ เมธาสิทธิ์ได้อันดับที่ 6 และพูนศิริได้อันดับที่ 7 ก็ถือว่าน่าพอใจที่ทั้ง 2 คนผ่านมาถึงรอบรองชนะเลิศและสามารถเอาชนะนักปั่นระดับโลกมาได้หลายคน รวมทั้งนักปั่นจากญี่ปุ่นและชาติอื่น ๆ ในเอเชียด้วยกัน รวมไปถึง ธนภรณ์ หะหมาน ก็ทำหน้าที่ได้ดีเช่นกัน อย่างไรก็ตาม นักกีฬาชุดนี้จะต้องได้รับการฝึกฝนและพัฒนาทักษะเพิ่ม เพื่อเป็นกำลังสำคัญในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพในปี 2568 ต่อไป” พลเอกเดชา กล่าว
ด้าน “เพ็ชร์” วิภาวี กล่าวว่า “การแข่งขันครั้งนี้พวกเราสู้กันอย่างเต็มที่ แต่จากการเดินทางที่ต้องต่อเครื่องบินจากกรุงเทพฯ มากรุงจาการ์ตา และจากกรุงจาการ์ตา มายังเมืองปาลังการายา ทำให้พวกเราเหนื่อยล้า แต่พวกเราก็ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ ผลงานวันนี้ที่ได้อันดับ 3 ก็ถือว่าน่าพอใจและผ่านไปด้วยดี พวกเราขอขอบคุณท่านพลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ ที่ให้โอกาสส่งพวกเรามาแข่งขันรายการชิงแชมป์โลกครั้งนี้”
ส่วน “เบส” เมธาสิทธิ์ กล่าวว่า “สนามแข่งขันรายการนี้ถือว่าเป็นสนามที่ดี เมื่อ 2 ปีก่อน ผมมาร่วมการแข่งขันแล้วได้อันดับที่ 3 แต่ปีนี้เข้าถึงรอบรองชนะเลิศ และจบอันดับที่ 6 ซึ่งผมก็ทำเต็มที่แล้ว ต้องขอบคุณท่านนายกสมาคมกีฬาจักรยานฯ พลเอกเดชา เหมกระศรี ที่ส่งพวกเรามาแข่งขัน และให้การสนับสนุนพวกเราด้วยดีตลอดมา”
สำหรับนักกีฬาจักรยานเสือภูเขาทีมชาติไทย เดินทางกลับเมืองไทยช่วงค่ำของวันที่ 20 พฤษภาคม ด้วยสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบิน QZ252 ถึงสนามบินดอนเมือง เวลา 20.10 น. โดยมี พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ เดินทางไปต้อนรับ พร้อมด้วยคณะกรรมการบริหารสมาคมฯ และญาติพี่น้องของนักกีฬาก็ไปร่วมต้อนรับอย่างอบอุ่น
