20 Dec 2024

‘บัวขาว’ เผยสุดภูมิใจทำหน้าที่ทูตวัฒนธรรม

ifma06082401

โปรโมทมวยไทยกลางปารีส 2024 วันแรกคึกคัก ‘บัวขาว บัญชาเมฆ’ ร้อยโท สมบัติ บัญชาเมฆ ยอดนักมวยไทยชื่อดังวัย 42 ปี แม่เหล็กดึงต่างชาติทะลักชม ลั่นอยากเห็นกีฬามวยไทยบรรจุชิงชัยโอลิมปิกเกมส์ สุดภูมิใจทำหน้าที่ทูตวัฒนธรรม

          ความเคลื่อนไหวการจัดกิจกรรมนำกีฬา “มวยไทย” ไปโชว์แข่งขันเสมือนจริงช่วงการแข่งขันมหกรรมกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2024 “ปารีส 2024” ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 30 กรกฎาคม- 8 สิงหาคม 2567 ภายใต้การผลักดันของ สหพันธ์สมาคมมวยไทยนานาชาติ (IFMA) นำโดย ดร.ศักดิ์ชาย ทัพสุวรรณ ประธานสหพันธ์สมาคมมวยไทยนานาชาติ (IFMA), สเตฟาน ฟ็อกซ์ เลขาธิการ IFMA ผนึกกำลังกับคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งชาติฝรั่งเศส และ “บัวขาว บัญชาเมฆ” ร้อยโท สมบัติ บัญชาเมฆ ยอดนักมวยไทยชื่อดังของโลกวัย 42 ปีชาว อ.สำโรงทาบ จ.สุรินทร์ 

          โดยกิจกรรมดังกล่าวนอกจากการแข่งขันโชว์มวยไทยเสมือนจริงแล้วยังทำการโปรโมทมวยไทย การแสดงปี่กลองมวยไทย การไหว้ครู ตามศิลปวัฒนธรรมมวยไทยที่ถูกต้องให้นักกีฬา เจ้าหน้าที่จากชาติต่างๆ ได้รับรู้ถึงศิลปะแม่ไม้มวยไทยที่มีต้นกำเนินจากประเทศไทย ซึ่งถือเป็นบันไดก้าวสำคัญสานความฝันของคนไทยในการผลักดันกีฬา “มวยไทย” ให้ได้รับการบรรจุแข่งขันในโอลิมปิกเกมส์ ฤดูร้อน ต่อไปในอนาคต 

          เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม เป็นวันเปิดกิจกรรมโชว์มวยไทย อย่างเป็นทางการ วันแรก ที่คลับฟรานซ์ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส โดยมี พันโท หม่อมเจ้านวพรรษ์ ยุคล พร้อมด้วยผู้บริหาร IFMA, บัวขาว บัญชาเมฆ, ร.ท.ธีรวัฒน์ ยิ้วยิ้ม ผู้จัดการของบัวขาว, ทีมมวยโบราณ นำโดย “ครูดิน” นายวิทวัส ค้าสม ผู้ก่อตั้งลานนา ไฟต์ติ้ง, ทีมปี่กลอง นำโดยนายแนววิทย์ นิยมวงษ์ ท่ามกลางชาวต่างชาติจำนวนมากที่เข้าร่วมกิจกรรมที่คลับ ฟรานซ์ ซึ่งเจ้าภาพโอลิมปิก 2024 จัดพื้นที่แฟนโซนขนาดใหญ่ให้แฟนกีฬาจากทั่วโลกมาพักผ่อน ทานอาหาร ช็อปปิง ทำกิจกรรมกีฬา ฝึกกีฬา และโชว์ศิลปวัฒนธรรมของทุกชาติ

          บรรยากาศที่เวทีมวยไทย ภายในคลับ ฟรานซ์ เป็นไปอย่างคึกคัก แฟนกีฬาจากทั่วโลกร่วมชมการแสดงมวยโบราณพร้อมกับปรบมือให้กับความยอดเยี่ยมของศิลปะแม่ไม้มวยไทย ขณะเดียวกันแฟนกีฬาต่างชาติต่างตื่นเต้นกับการปรากฏตัวของ บัวขาว บัญชาเมฆ เข้ามาถ่ายรูปคู่กับยอดนักมวยไทยกันอย่างต่อเนื่อง

          การนำมวยไทยมาโชว์แข่งขันเสมือนจริงระหว่างการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2024 นับเป็นความสำเร็จของ IFMA หลังจากทำงานผลักดันอย่างหนักมาตลอด 31 ปีนับตั้งแต่ก่อตั้งสหพันธ์ โดยเมื่อโอลิมปิก 2020 ครั้งก่อนที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น กีฬามวยไทยได้รับการรับรองจากคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) ให้เป็นหนึ่งในชนิดกีฬาที่ไอโอซีจะหยิบไปพิจารณาบรรจุแข่งขันอย่างเป็นทางการในอนาคต ซึ่งโอลิมปิก 2024 ถือเป็นหมุดหมายที่ดีที่ IFMA ได้รับอนุญาตให้มาร่วมกิจกรรมโชว์แข่งขันมวยไทยเสมือนจริงที่คลับ ฟรานซ์ กรุงปารีส ภายใต้การทำงานร่วมกันระหว่าง IFMA, กระทรวงการต่างประเทศ, สถานเอกอัคราชทูต ณ กรุงปารีส เพื่อให้ชาวต่างชาติได้ประจักษ์กันทั่วโลกว่ากีฬามวยไทยก้าวเดินมาอย่างมั่นคงบนเส้นทางสู่โอลิมปิกเกมส์ ซึ่งผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทันทีที่ บัวขาว บัญชาเมฆ ขึ้นแสดงโชว์ไหว้ครูได้รับเสียงตะโกนเชียร์ และปรบมือจากชาวต่างชาติจำนวนมาก 

          บัวขาว บัญชาเมฆ กล่าวหลังทำการแสดงโชว์ไหว้ครูมวยไทยว่า ความรู้สึกของตัวเองในการเห็นมวยไทยมาต่อยที่โอลิมปิกเกมส์ถึงตอนนี้ถือว่าสุดยอดในอาชีพ วันนี้ตนได้เป็นตัวแทนของนักมวยไทย หรือว่าเป็นตัวแทนของศิลปะประจำชาติไทยที่ได้นำมาเผยแพร่ เรามาโชว์ในระดับที่สุดยอดของกีฬาอย่างโอลิมปิกเกมส์ เป็นครั้งแรกของตัวเองที่ได้มายืนในบรรยากาศของโอลิมปิก และได้นำศิลปะของไทยเรามาโชว์มันเป็นบรรยากาศที่ยอดเยี่ยม ถ้าหากอนาคตมวยไทยได้บรรจุแข่งขันในโอลิมปิกเกมส์อย่างแท้จริงมันเป็นความภาคภูมิใจอย่างแท้จริงที่ได้นำกีฬามวยไทยมาให้คนทั่วโลกได้ยอมรับ

          บัวขาว กล่าวต่อไปว่า อีกบทบาทหนึ่งของตัวเองในการทำงานร่วมกับ IFMA คือ การได้เป็นทูตวัฒนธรรมมวยไทย ตนรู้สึกว่ามีความภาคภูมิใจที่ได้นำศิลปะแม่ไม้มวยไทยมาโชว์ให้ทุกชาติได้รับรู้ แน่นอนว่าในฐานะที่เป็นนักกีฬามาด้วย ลุ้นอย่างมากที่อยากจะเห็นมวยไทยได้รับการบรรจุชิงชัยในมหกรรมกีฬาโอลิมปิกเกมส์จริง ๆ ถ้าถึงวันนั้นจริงจะเป็นสิ่งที่ตัวเองภาคภูมิใจอย่างสูงสุด 

          “ฝากถึงน้อง ๆ เยาวชนที่กำลังฝึกมวยไทยอยากให้ฝึกมวยไทยที่แท้จริง ในอีกไม่นานอาจจะเป็นตัวแทนทีมชาติไทยมาแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ อยากให้ทุกคนช่วยกันเชียร์ ถ้าเกิดไม่มีการจำกัดอายุในโอลิมปิกเกมส์แน่นอนว่า ผมพร้อมที่จะมาแข่งขันด้วย หรือว่ามาไหว้ครูโชว์ หรือว่ามาโชว์ศิลปะท่ารำต่าง ๆ  ผมเองก็อยากมาร่วมโอลิมปิกสักครั้ง” บัวขาว กล่าว

          จากนั้นเข้าสู่การแข่งขันมวยไทย 10 คู่ภายใต้กติกาที่ IFMA รับรอง ซึ่งคู่ไฮต์ของแฟนมวยชาวไทยคือ รุ่น 48 กก. “โดมทอง ลูกเจ้าพ่อโรงต้ม” ศุภณัฐ เพชรรักษ์ ดวลกับ โมห์ด ริฟฟาดีน บิน มาสดอร์ นักมวยไทยชื่อดังของมาเลเซีย ผลปรากฏว่า กินกันไม่ลงเสมอกันไปพร้อมกับรับเหรียญรางวัลและมาสคอตประจำการแข่งขันเป็นที่ระลึก

          ทั้งนี้ ในวันที่ 6 สิงหาคม ยังเหลือนักชกไทยขึ้นสังเวียนอีกรายคือ รุ่น 48 กก.หญิง “น้องนุ๊ก มกช.ชัยภูมิ” กุลณัฐ อ่อนอก ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของ บัวขาว บัญชาเมฆ  จากนั้นวันที่ 7 สิงหาคม จะมีพิธีลงนามและการโปรโมทมวยไทย ที่โอลิมปิก เฮาส์ โดยมี เจ้าชายอับดุลลาซิซ บิน เตอร์กี อัล ไฟซอล ประธานสมาคมกีฬาสมานฉันท์อิสลาม ( Islamic Solidarity Sports Association),  ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกเปรู และประธานคณะกรรมการโอลิมปิกบาห์เรน เข้าร่วมลงนาม ต่อด้วยงานเลี้ยงกาล่าดินเนอร์สำหรับสมาชิกที่ร่วมงาน