20 Dec 2024

‘มัตซึยามา’แรงบันดาลใจของวงการกอล์ฟแดนอาทิตย์อุทัย

pga06062401

ฮิเดกิ มัตซึยามา (ภาพ: Getty Images)

ไบรอัน ฮาร์แมน โปรชาวอเมริกันเจ้าของแชมป์ดิ โอเพน คนล่าสุด เล่าเรื่องราวตลกว่าเขาและ แมตต์ เอเวอรี เพื่อนร่วมชาติเจ้าของแชมป์พีจีเอทัวร์ เคยทำพลาดในการทำนายอนาคตของ ฮิเดกิ มัตซึยามา ดาวรุ่งชาวเอเชียเมื่อ 10 ปีก่อน ตรงข้ามกับ แจ็ค นิคลอส เจ้าของสถิติแชมป์เมเจอร์สูงสุดตลอดกาล 18 รายการ มั่นใจว่าดาวรุ่งรายนี้จะสร้างปรากฎการณ์ให้กับวงการกอล์ฟ

          ฮาร์แมนเล่าย้อนเหตุการณ์ในครั้งนั้นว่าเขาและเอเวอรีได้ร่วมก๊วนกับ ฮิเดกิ มัตซึยามา หนึ่งในกลุ่มนักกอล์ฟญี่ปุ่นที่ได้รับเชิญจากสปอนเซอร์เข้าร่วมแข่งขันในรายการ โซนี โอเพน 2012 ที่ฮาวาย และความประทับใจแรกของเขาก็ไม่ต่างจากเอเวอรี คือไม่คิดว่ามัตสึยาม่าจะไปได้ไกล

          “เราลงเล่นก๊วนเดียวกับ ฮิเดกิ มัตซึยามา เขาดูตื่นเต้นมาก และมีช่างภาพรายล้อมเต็มไปหมด เราเห็นเขาเดาะลูกกอล์ฟและพากันฟันธงว่า เด็กหนุ่มคนนี้ไม่น่าจะทำได้ดี เขาประหม่าเกินไป ดูไม่มั่นใจ เขาเล่นไม่ดีเลยและไม่ผ่านการตัดตัว ก็เลยคิดว่า ฮิเดกิ มัตซึยามา ไม่น่าจะทำได้” ฮาร์แมน กล่าว

          จากวันนั้นถึงวันนี้ มัตซึยามา คว้าแชมป์พีจีเอทัวร์มาแล้ว 9 รายการ มากกว่าฮาร์แมนและเอเวอรี ทำได้รวมกัน 4 รายการ รวมทั้งสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักกอล์ฟชายจากญี่ปุ่นคนแรกที่ได้แชมป์เมเจอร์หลังคว้ากรีนแจ๊คเก็ตชนะเลิศรายการมาสเตอร์ส ทัวร์นาเมนท์ เมื่อปี 2021

          “ใช่ เราฟันธงผิด เรามองเขาผิดไปจริงๆ ซึ่งผมและแมทท์ยังแซวกันอยู่เกี่ยวกับเรื่องนั้น” ฮาร์แมน กล่าวติดตลก

          ในสัปดาห์นี้ มัตสึยาม่า เตรียมฉลองครบรอบ 10 ปี แห่งการคว้าชัยชนะครั้งแรกในพีจีเอทัวร์ ในศึกเดอะ เมมโมเรียล ทัวร์นาเมนต์ พรีเซนเต็ดบาย เวิร์กเดย์ รายการที่ตำนานนักกอล์ฟชาวอเมริกัน แจ๊ค นิคลอส เป็นเจ้าภาพ และนิคลอส ซึ่งปัจจุบันอายุ 84 ปี ยังจดจำการการคว้าแชมป์พีจีเอทัวร์ครั้งแรกของมัตซึยามาที่เมียร์ฟิลด์ วิลเลจ กอล์ฟ คลับ ได้ดี และรู้สึกประทับใจมาก

แจ็ค นิคลอส และ ฮิเดกิ มัตซึยามา (ภาพ: Getty Images)

          นิคลอส กล่าวถึงมัตซึยามาที่ได้แชมป์สมัครเล่นรายการใหญ่ เอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ สองสมัย ก่อนเทิร์นโปร์เป็นนักกอล์ฟอาชีพว่า “ตอนที่เขาคว้าแชมป์เดอะ เมมโมเรียล ทัวร์นาเมนต์ ผมบอกไปว่า เขาจะชนะอีกหลายรายการ รวมถึงคว้าแชมป์เมเจอร์ด้วย เขาเป็นผู้เล่นที่ดีก่อนเข้าร่วมแข่งขันที่นี่ ไม่เช่นนั้นแล้วเขาคงไม่ได้มาร่วมแข่งรายการนี้ เราทุกคนทราบดี”

          สำหรับ นิคลอส คว้าแชมป์พีจีเอทัวร์รวม 73 รายการ และในช่วงปีที่รุ่งโรจน์ ได้ประชันฝีมือกับโปรกอล์ฟชั้นนำของญี่ปุ่นอย่าง อิซาโอะ อาโอกิ, จัมโบ โอซากิ และนาโอมิชิ “โจ” โอซากิ แต่ตำนานก้านเหล็กชาวอเมริกันยกให้มัตซึยามาเป็นนักกอล์ฟที่ดีที่สุดในกลุ่ม เขารู้สึกทึ่งมากกับเส้นทางการสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองของมัตสึยามาในเวทีพีจีเอทัวร์ที่สหรัฐฯ แม้เจออุปสรรคด้านภาษา อาหาร และความแตกต่างทางวัฒนธรรม รวมทั้งเชื่อว่ามัตสึยาม่าจะชนะรายการเมเจอร์ได้อีก

          นิคลอส กล่าวเสริมว่า “มันค่อนข้างยากสำหรับบางคนในการปรับตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมาจากประเทศที่ต้องเจออุปสรรคเรื่องภาษาที่ยาก แล้วต้องมาอาศัยอยู่ที่นี่และลงแข่งขันที่นี่ตลอดทั้งปี มัตซึยามาทำได้ดีมาก เขาคว้าแชมป์เดอะมาสเตอร์ส และคว้าแชมป์รายการอื่นๆ อีกหลายรายการ ผมเชื่อว่าเขาจะคว้าแชมป์เมเจอร์มาครองได้อีก เขาเป็นผู้เล่นที่ดีมากๆ”

          หลังจากคว้าแชมป์เมื่อทศวรรษที่แล้ว มัตซึยามาประกาศศักดาสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองอย่างต่อเนื่อง และการคว้าชัยชนะในรายการเจเนซิส อินวิเตชันแนล ที่มีไทเกอร์ วูดส์ เป็นเจ้าภาพเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยระเบิดฟอร์มรอบสุดท้ายหวด 9 อันเดอร์พาร์ 62 พลิกสถานการณ์จากที่ตามหลัง 6 สโตรกกลับมาชนะ 3 สโตรก ทำให้เขากลายเป็นนักกอล์ฟเอเชียที่ชนะเลิศในเวทีพีจีเอทัวร์มากที่สุด แซงหน้า เค.เจ.ชอย ยอดโปรกอล์ฟจากเกาหลีใต้ ขณะเดียวกัน โปรกอล์ฟวัย 32 ปีจากญี่ปุ่น ยังทำผลงานได้รองแชมป์อีก 7 รายการ จบใน 5 อันดับแรกอีก 40 รายการ จากการลงเล่น 254 รายการ ทำเงินรางวัลรวมกว่า 50 ล้านเหรียญสหรัฐ รั้งที่ 12 ของอันดับทำเงินรางวัลสูงสุดตลอดกาลของพีจีเอทัวร์ 

ฮิเดกิ มัตซึยามา และ อดัม สกอตต์ (ภาพ: Getty Images)

          ด้าน อดัม สกอตต์ แชมป์พีจีเอทัวร์ 14 รายการจากออสเตรเลีย ซึ่งเคยจับคู่กับมัตซึยามา ในการแข่งขันกอล์ฟประเภททีมรายการเพรสซิเดนต์คัพ ปี 2013 ชื่นชมและยกย่องความสำเร็จ รวมถึงความมีอิทธิพลต่อวงการกอล์ฟในญี่ปุ่นของมัตซึยามา ทั้งนี้ในปีที่มัตซึยามาได้แชมป์พีจีเอทัวร์ครั้งแรก สกอตต์ ก็มีลุ้นแชมป์ในครั้งนั้นเช่นกัน 

          “ตอนนั้นผมเอาใจช่วยเขา พอคิดว่าตัวเองไม่น่าจะชนะได้แล้วเมื่อเหลือการแข่งขันในอีก 2-3 หลุม ผมอยากเห็น มัตซึยามา ก้าวขึ้นมาและคว้าแชมป์รายการใหญ่ ซึ่งเขาก็เล่นได้อย่างยอดเยี่ยมและทำสำเร็จ มันถึงเวลาของเขาแล้ว” สกอตต์ กล่าว

          หลังจากชนะเลิศรายการเดอะ เมมโมเรียล ทัวร์นาเมนต์ มัตสึยามาคว้าแชมป์อีกสองครั้งในปี 2016 และ 2017 และขยับขึ้นไปรั้งอันดับ 2 ของโลก ก่อนเจอปัญหาอาการบาดเจ็บที่หลังและที่คอ ทำให้การเดินของเขาสะดุดลงเล็กน้อย จนกระทั่งมาคว้าชัยชนะครั้งประวัติศาสตร์ที่ออกัสตา เนชันแนล ในรายการเดอะ มาสเตอร์ส  ปี 2021 ทำให้เขากลายเป็นนักกอล์ฟชายจากญี่ปุ่นคนแรกที่ได้แชมป์เมเจอร์

          ความสำเร็จของมัตซึยามา ทำให้เขากลายเป็นที่สนใจของสื่อญี่ปุ่นที่ตามติดทุกช็อตในสนาม และเขาสามารถรับมือได้ดี จนได้รับคำชมจาก อดัม สกอตต์ ที่ประทับใจกับวิธีการของมัตสึยามาในการจัดการกับความคาดหวังของแฟนกีฬาชาวญี่ปุ่นที่คลั่งไคล้เกมกอล์ฟ

          สกอตต์ กล่าวว่า “เขารับมือกับความกดดันมากมายจากแฟนกีฬาทั้งประเทศได้ดีมากๆ ผมมั่นใจว่าเขาต้องการประสบความสำเร็จมากขึ้นไปอีก แต่สิ่งที่เขาทำสำเร็จแล้วก็ถือเป็นปรากฎการณ์ เขามีความคงเส้นคงวา ผมรู้สึกว่าเขาอาจถูกมองข้ามในปัจจุบัน แต่คุณทราบดีว่าเขาเล่นได้ยอดเยี่ยมแค่ไหน มัตสึยามาคือผู้สร้างความเปลี่ยนแปลงและแรงบันดาลใจที่สำคัญในวงการกีฬากอล์ฟของญี่ปุ่น ซึ่งทุกคนภูมิใจในตัวเขาและสิ่งที่เขากำลังทำอยู่”

          ในขณะที่หลายคนมองว่า มัตซึยามาจะคว้าแชมป์มาครองเพิ่มอีกแน่นอน อิซาโอะ อาโกะ นักกอล์ฟคนแรกจากญี่ปุ่นที่คว้าแชมป์พีจีเอทัวร์ในปี 1983 เชื่อว่ามัตซึยามาจะเป็นแรงบันดาลใจให้สู่การสร้างปรากฎการณ์ครั้งใหม่ให้กับวงการกอล์ฟของญี่ปุ่น เห็นได้จากการมีดาวรุ่งหน้าใหม่อย่าง เรียว ฮิซาสึเนะ, เคอิตะ นากาจิมะ, ไทกะ เซมิคาวะ และทาคูมิ คานายะ โดยอาโอกิ คาดการณ์ว่า “นี่คือจุดเริ่มต้นของยุคใหม่ และผมมั่นใจว่ามีนักกอล์ฟจำนวนมากที่อยากจะเดินตามรอยของมัตซึยามา”

          สำหรับมัตซึยามา แม้ได้รับการยกย่องและมีชื่อเสียงโด่งดัง แต่ไม่เคยหลงระเริงกับความสำเร็จและไม่ทำตัวโดดเด่นเพื่อเลี่ยงการตกเป็นเป้าสายตาของคนทั่วโลก เขายังคงมุ่งมั่นต่อสู้ทำให้ผลงานให้ดีในสนามเพื่อนำชัยชนะและเกียรติยศสู่ประเทศบ้านเกิด เลือกที่จะมองไปข้างหน้าแทน 

          “ผมแค่อยากทำงานหนักและเล่นให้ดี มากกว่าที่จะไปคิดถึงสิ่งที่ทำผ่านมาแล้ว ชีวิตของผมค่อยๆ เปลี่ยนไปหลังจากอยู่ในทัวร์มา 10 ปี ผมได้เติมเต็มความฝันแล้วตอนนี้ และยังต้องการทำงานหนักต่อไปอีก 10 หรือ 20 ปี ผมแค่โชคดีที่การทำงานหนักได้ผล ดังนั้นผมจึงไม่มีความลับ หรือเคล็ดลับอะไร” มัตซึยามา กล่าวในที่สุด