สาวไทยไม่เคยทำให้แฟนกอล์ฟผิดหวัง
กระแสวงการกอล์ฟสาวไทยบนเวทีระดับอินเตอร์เนชั่นแนลต้องบอกว่าแรงอย่างต่อเนื่องในรอบหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในปี 2022 ที่ “จีน“ อาฒยา ฐิติกุล ประเดิมฤดูกาลรุกกี้ในแอลพีจีเอของเธอด้วยการคว้าแชมป์ 2 รายการ พร้อมขึ้นบัลลังก์นักกอล์ฟหญิงหมายเลขหนึ่งของโลก และปิดท้ายซีซั่นด้วยการคว้าตำแหน่งนักกอล์ฟดาวรุ่งยอดเยี่ยม หรือ รุกกี้ ออฟ เดอะ เยียร์
กระแสสาวไทยแรงต่อเนื่องมาถึง ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2023 เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ที่สยามคันทรีคลับ โอลด์คอร์ส พัทยา ที่แม้สาวไทยจะพลาดหวัง แต่ตลอดทั้ง 4 วันของการแข่งขัน แฟนกอล์ฟเกือบ 5 หมื่นคนก็มีความสุขที่ได้เห็น “ซิม 300” ณัฐกฤตา วงศ์ทวีลาภ และ จีน อาฒยา จบอันดับสองและสามตามลำดับ เป็นรองเพียง ลิเลีย วู มือหนึ่งโลกชาวอเมริกันเจ้าของแชมป์ประจำปีนี้เพียงคนเดียว
ความสุขของแฟนกอล์ฟไทยยังมีมาอย่างต่อเนื่อง ต้นเดือนพฤษภาคม ทีมนักกอล์ฟสาวไทยที่ประกอบด้วย อาฒยา ฐิติกุล, เอรียา-โมรียา จุฑานุกาล และ “แพตตี้” ปภังกร ธวัชธนกิจ ก็ประกาศศักดาคว้าแชมป์อินเตอร์เนชั่นแนล คราวน์ ทั้งที่ก่อนแข่งเป็นเพียงทีมวางอันดับหกจากทั้งหมด 8 ทีมที่ร่วมแข่งขัน
รายการนี้ใช้อันดับโลกเป็นเกณฑ์ โดยทีมสาวไทยสามารถทำผลงานอย่างยอดเยี่ยมด้วยชัยชนะ 11 จาก 12 แมตช์ ก้าวขึ้นไปอยู่ในทำเนียบแชมป์ เช่นเดียวกับ สเปน (แชมป์ปี 2014), สหรัฐอเมริกา (2016) และ เกาหลีใต้ (2018) พร้อมของแถมกับรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมของ เม เอรียา
จากนั้นไม่กี่สัปดาห์ “เมียว” ปาจรีย์ อนันต์นฤกาล ก็คว้าแชมป์แอลพีจีเอรายการที่สองในอาชีพของเธอในศึกแอลพีจีเอ แมตช์เพลย์ ตามด้วยชัยชนะของ “พราว”ชเนตตี วรรณแสน กับแชมป์พอร์ตแลนด์ คลาสสิก ในเดือนสิงหาคม ทั้งที่เธอมาจากจากการเล่นรอบมันเดย์ควอลิฟาย ก่อนจะกลายเป็น 1 ใน 5 รุกกี้ ที่คว้าแชมป์ได้ในฤดูกาลนี้ และยังเป็น 1 ใน 12 แชมป์หน้าใหม่ในแอลพีจีเอทัวร์ (First-Time Winners)
นับเป็นฤดูกาลที่ 3 ติดต่อกันที่ประเทศไทยมีแชมป์หน้าใหม่เกิดขึ้นในแอลพีจีเอ ต่อจาก ปาจรีย์ อนันต์นฤกาล (สองแชมป์หน้าใหม่ปี 2021) และ อาฒยา ฐิติกุล (แชมป์หน้าใหม่ปี 2022) นอกจากนี้ พราว ชเนตตี ยังกลายเป็นสาวไทยคนที่ 7 ที่ได้แชมป์ในทัวร์ ทำให้ขณะนี้ ประเทศไทยสะสมแชมป์แอลพีจีเอรวมแล้ว 22 รายการ
ส่วน อาฒยา ฐิติกุล สาวราชบุรีวัย 20 ปี ซึ่งจบท็อปเทนถึง 13 รายการจากทั้งหมด 21 รายการ แม้จะไม่สามารถคว้าแชมป์ในฤดูกาลนี้ได้ แต่ยังคว้าถ้วยรางวัล “Vare Trophy” ซึ่งมอบให้กับนักกอล์ฟที่ทำสกอร์เฉลี่ยต่ำสุด ซึ่งทำให้เธอสะสมได้อีก 1 แต้ม เพื่อการเข้าสู่หอเกียรติยศ
จีน อาฒยา นับเป็นนักกอล์ฟสาวไทยคนที่ 2 ที่คว้ารางวัล Vare Trophy ไปครอง ต่อจาก เม เอรียา ที่ทำได้เมื่อปี 2018 ซึ่งในปีนั้น เอรียา คว้าแชมป์ 3 รายการ ก่อนจบปีด้วยการกวาดเรียบ 5 รางวัล ได้แก่ สกอร์เฉลี่ยต่ำสุด นักกอล์ฟยอดเยียมแห่งปี นักกอล์ฟทำเงินสูงสุด คะแนนเรซทูซีเอ็มอีโกลบ และ นักกอล์ฟผลงานดีที่สุดในรายการเมเจอร์
จากผลงานในรอบปี 2023 ทำให้มีนักกอล์ฟสาวไทยยังได้สิทธิ์เล่นในแอลพีจีเอทัวร์ฤดูกาลหน้าถึง 12 คน และล่าสุดแฟนกอล์ฟจะได้เชียร์เพิ่มอีก 1 คน กับ “มาย” ตรีฉัฐ จีนกลับ โปรวัย 28 ปี ซึ่งเพิ่งคว้าทัวร์การ์ดจากการแข่งขันคิวสคูล โดยเธอเพิ่งจะจบฤดูกาล 2023 ด้วยการคว้าตำแหน่งนักกอล์ฟมือหนึ่ง และนักกอล์ฟดาวรุ่งยอดเยี่ยมจาก เลดี้ส์ ยูโรเปียนทัวร์
ด้วยกระแสนักกอล์ฟสาวไทยที่แรงอย่างต่อเนื่อง ก็หวังว่า ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2024 ชิงเงินรางวัลรวม 1.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 62 ล้านบาท ซึ่งเป็นการจัดการแข่งขันครั้งที่ 17 ระหว่าง วันที่ 22-25 กุมภาพันธ์ 2567 แฟนกอล์ฟจะล้นสนาม สยามคันทรีคลับ โอลด์คอร์ส พัทยา จ.ชลบุรี เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา