มาตรการเข้ม ‘ทัพสองล้อซีเกมส์’ ไม่ฟิตมีเสียวหลุดทีม
สมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ ดำเนินมาตรการเข้มเก็บตัวนักกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 มีการติดตามและทดสอบสมรรถภาพนักกีฬา เพื่อดูพัฒนาการระหว่างการฝึกซ้อมอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่องเพื่อความสำเร็จในการเป็นเจ้าเหรียญทองตามเป้าหมาย นักปั่นคนใดไม่ฟิตอาจโดนตัดออกจากทีมทันที โดยกีฬาจักรยานในซีเกมส์ มีชิงชัยครบ 4 ประเภท รวม 17 เหรียญทอง ประเภทถนนชิง 7 ทอง, ประเภทลู่ชิง 5 ทอง, ประเภทเสือภูเขาชิง 3 ทอง และประเภทบีเอ็มเอ็กซ์ชิง 2 ทอง
“เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี ประธานสหพันธ์จักรยานแห่งอาเซียน (เอซีเอฟ) และนายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า ตามที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ระหว่างวันที่ 9-20 ธันวาคม 2568 ซึ่งจะมี 3 จังหวัดเจ้าภาพ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, ชลบุรี และสงขลา ในส่วนของกีฬาจักรยาน คณะกรรมการจัดการแข่งขันอนุมัติจัดการแข่งขัน 4 ประเภท จำนวน 17 เหรียญทอง ประกอบด้วย ประเภทถนน 7 เหรียญทอง ทีมไทม์ไทรอัลชาย, ไทม์ไทรอัลบุคคลชาย, ไทม์ไทรอัลบุคคลหญิง, ไครทีเรียมหญิง, โรดเรซทีมชาย, โรดเรซบุคคลชาย และโรดเรซบุคคลหญิง / ประเภทเสือภูเขา 3 เหรียญทอง ดาวน์ฮิลชาย, ดาวน์ฮิลหญิง และครอสคันทรี อิลิมิเนเตอร์ชาย / ประเภทลู่ 5 เหรียญทอง ทีมเปอร์ซูตชาย, ทีมสปรินต์ชาย, คีรินชาย, พ้อยน์เรซชาย, สแครตช์หญิง / ประเภทบีเอ็มเอ็กซ์ 2 เหรียญทอง ไทม์ไทรอัลชาย และ บีเอ็มเอ็กซ์เรซซิงชาย
พลเอกเดชา กล่าวว่า สำหรับนักปั่นทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ คณะผู้ฝึกสอนในแต่ละประเภทได้นำเสนอรายชื่อนักกีฬาเพื่อเข้าเก็บตัวฝึกซ้อมเตรียมความพร้อมและได้รับอนุมัติรายชื่อนักปั่นชุดซีเกมส์จากคณะกรรมการคัดเลือกตัวนักกีฬาทีมชาติไทยเรียบร้อยแล้ว โดยกำหนดที่จะเริ่มเข้าเก็บตัวฝึกซ้อมหลังจากที่นักปั่นไทยแต่ละคนเสร็จสิ้นภารกิจการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 49 “จันท์เกมส์” นักกีฬาจักรยานทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ที่ได้รับอนุมัติรายชื่อดังกล่าว ได้เข้ารับการตรวจร่างกายตามนโยบายของการกีฬาแห่งประเทศไทยเสร็จสิ้นไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งตามแผนการเก็บตัวฝึกซ้อม คณะกรรมการคัดเลือกตัวนักกีฬาทีมชาติไทยมีนโยบายให้นักกีฬาทีมชาติไทยชุดซีเกมส์มีการติดตามและทดสอบสมรรถภาพ เพื่อดูพัฒนาการระหว่างการฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่องและเข้มข้น เพื่อให้กีฬาแต่ละชนิดประสบความสำเร็จตามเป้าหมายครองเจ้าเหรียญทองซีเกมส์ให้ได้
นายกสมาคมกีฬาจักรยานฯ กล่าวต่อไปว่า นอกเหนือจากแนวทางการปฏิบัติดังกล่าวตามนโยบายของคณะกรรมการฯ แล้ว สมาคมฯ ยังจะเพิ่มความเข้มข้นในการติดตามผลการฝึกซ้อมของนักกีฬาสองล้อไทยแต่ละประเภท ด้วยการทดสอบสถิตินักกีฬาแต่ละคนเพิ่มเติม แบ่งการทดสอบออกเป็น 3 หรือ 4 ครั้ง โดยให้ผู้ฝึกสอนในแต่ละประเภทกำหนดห้วงเวลาที่จะทำการทดสอบ ซึ่งในการทดสอบสถิติแต่ละครั้งของนักปั่นทีมชาติไทยนั้น ก็จะมีคณะกรรมการฝ่ายเทคนิคสมาคมกีฬาจักรยานฯ เป็นผู้ดำเนินการ และจะเชิญผู้แทนจากคณะกรรมการคัดเลือกตัวนักกีฬาทีมชาติไทยหรือการกีฬาแห่งประเทศไทย เข้าร่วมเป็นสักขีพยานด้วย
“นอกเหนือจากการทดสอบสมรรถภาพร่างกาย และการทดสอบสถิติดังกล่าวแล้ว สมาคมกีฬาจักรยานฯ ยังมีนโยบายการพิจารณานักกีฬาทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ เป็นระยะ ๆ ซึ่งหากในระหว่างการเก็บตัวฝึกซ้อม มีพัฒนาการไม่เป็นที่น่าพอใจ หรือหากมีนักกีฬาคนอื่นที่แสดงศักยภาพโดดเด่นกว่าในการแข่งขันจักรยานชิงแชมป์ประเทศไทย ที่ทางสมาคมฯ จัดการแข่งขันตลอดปีประเภทละ 5 สนาม ก็อาจจะถูกตัดออกจากทีมซีเกมส์เพื่อเรียกนักกีฬาคนอื่นเข้ามาเป็นทีมชาติไทยสู้ศึกซีเกมส์ต่อไป ทั้งนี้เพื่อให้เกิดการแข่งขันและแรงกระตุ้นสำหรับนักปั่นทีมชาติไทยตลอดจนนักกีฬาดาวรุ่งคนอื่น ๆ ที่ยังคงมีโอกาสในการเข้ามาเป็นหนึ่งในทีมชาติไทยได้ หากผลงานดีเพียงพอ” พลเอกเดชา กล่าวในที่สุด
