ไร้คู่แข่ง ‘รังสฤษดิ์’ นั่งนายกกอล์ฟสมัย 8 เล็งเหรียญปารีสเกมส์
นายรังสฤษดิ์ ลักษิตานนท์
รังสฤษดิ์ ลักษิตานนท์ นั่งนายกสมาคมกีฬากอล์ฟแห่งประเทศไทยฯ เป็นสมัยที่ 8 ติดต่อกัยแบบไร้คู่แข่ง เล็งเหรียญโอลิมปิกที่กรุงปารีสที่นักกอล์ฟไทยน่าจะได้โควตาทั้งหมด 4 คน บอกอะไรก็เกิดขึ้นได้ในเกมกอล์ฟ ส่วนการพัฒนาเยาวชนยอมรับหนักใจเรื่องงบประมาณ วอนภาครัฐหันมาสนับสนุนมากขึ้น
นายรังสฤษดิ์ ลักษิตานนท์ นายกสมาคมกีฬากอล์ฟแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นประธานการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2567 ของสมาคมกีฬากอล์ฟฯ ที่ห้องแคทเทอลียา โรงแรมรามาการ์เดนส์ เมื่อวันที่ 25 มี.ค.2567 วาระที่สำคัญคือการเลือกตั้งนายกสมาคมฯ ทั้งนี้มีสมาชิกเข้าประชุมพร้อมเพรียง รวมทั้งผู้แทนจาก การกีฬาแห่งประเทศไทย เข้าร่วมด้วย
ในวาระการเลือกตั้งที่มี นายภานุ อนามบุตร ทำหน้าที่เป็นประธานชั่วคราว และ สมชาย แพรุ่งโรจน์ทวี เป็นเลขานุการชั่วคราวนั้น สมาชิกเสนอชื่อ นายรังสฤษดิ์ ลักษิตานนท์ เป็นนายกสมาคมกีฬากอล์ฟฯ แบบไร้คู่แข่งก่อนที่จะได้รับการรับรองจากที่ประชุมอย่างเป็นเอกฉันท์ ทำให้ นายรังสฤษดิ์ ได้เป็นนายกสมาคมกีฬากอล์ฟแห่งประเทศไทย เป็นสมัยที่ 8 โดยมีวาระบริหารงาน 4 ปี
นายรังสฤษดิ์ ซึ่งดำรงตำแหน่งนายกสมาคมกีฬากอล์ฟฯ มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2550 กล่าวว่า “สำหรับเป้าหมายสำคัญในปีนี้คือการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ที่หวังจะคว้าเหรียญรางวัลมาให้ได้ โดยโควตาสิทธิ์เข้าแข่งขันจะเป็นประเภทชาย 2 คนและประเภทหญิง 2 คน ซึ่งกีฬากอล์ฟอะไรก็เกิดขึ้นได้ หากทุกอย่างมาพร้อมกัน เพราะนักกีฬาฝีมือไม่ต่างกันมากนัก อยู่ที่วันแข่งขัน ส่วนกีฬาซีเกมส์ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพในปีหน้ายังไม่กำหนดสนามที่จะใช้สำหรับการแข่งขัน รอดูว่าจะมีใครเสนอตัวมาหรือไม่ หากได้สนามที่มีคุณภาพก็ยินดี โดยความหวังที่จะกวาดทั้ง 4 เหรียญทองในกีฬาซีเกมส์ คงจะเป็นเรื่องยากเพราะตอนนี้มีระบบแข่งแบบแมตช์เพลย์ ที่อะไรก็เกิดขึ้นได้ แต่ก็หวังไว้ที่ 2-3 เหรียญทอง”
นายกสมาคมกีฬากอล์ฟฯ ยังกล่าวถึงการส่งเสริมกอล์ฟเยาวชนด้วยว่า ตอนนี้มีรายการเยาวชน 85 รายการทั่วประเทศ และมีเยาวชนไทยที่มีความสามารถมากมาย อย่างไรก็ตาม ในการพัฒนากีฬากอล์ฟ ยอมรับว่าหนักใจเรื่องงบประมาณการสนับสนุน กีฬากอล์ฟสามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศอย่างมากมายและยังสร้างงานให้คนจำนวนมากด้วย ก็หวังว่าจะได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐมากขึ้น
