เลอ ทัวร์ เดอ ลังกาวี ‘ธนาคาร’รั้งอันดับสี่นักปั่นเอเชีย
สราวุฒิ สิริรณชัย นักปั่นทีมชาติไทยคว้าตำแหน่ง “เบสต์ เอเชียน ไรเดอร์” หรือ นักปั่นยอดเยี่ยมเอเชีย ประจำสเตจที่ 5 มาครอง ในศึกสองล้อทางไกล เลอ ทัวร์ เดอ ลังกาวี 2024 ที่ประเทศมาเลเซีย หลังทำความเร็วเฉลี่ยสูงถึง 46.6 กม. ต่อชั่วโมง ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาอย่างหนักตลอดเส้นทาง ขณะที่ ธนาคาร ไชยยาสมบัติ รั้งอันดับ 4 เวลารวมนักปั่นเอเชีย หลังจบเสตจที่ 6 ตามหลังนักปั่นญี่ปุ่นอีก 3 คนเพียง 2 นาทีเศษ
“เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี ประธานสหพันธ์จักรยานแห่งอาเซียน (เอซีเอฟ) และนายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูถัมภ์ เปิดเผยว่า ตามที่สมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้ส่งนักกีฬาจักรยานชายทีมชาติไทย ไปแข่งขันจักรยานทางไกล “เลอ ทัวร์ เดอ ลังกาวี 2024” ที่ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 4 ต.ค.ที่ผ่านมาหลังจากแข่งขันมาแล้ว 6 สเตจ ระยะทางรวมกว่า 900 กม. นักปั่นทีมชาติไทยยังทำผลงานได้โดดเด่น โดย “เฟรม” ส.อ.ธนาคาร ไชยยาสมบัติ ทำเวลาเป็นอันดับ 4 เวลารวมนักปั่นเอเชีย ซึ่งมี 3 นักกีฬาทีมอาชีพจากญี่ปุ่นนำอยู่ ในขณะที่ทีมชาติไทยทำเวลาเป็นอันดับ 2 เวลารวมทีมเอเชีย โดยผู้นำเป็นทีมเจซีแอล ยูเกียว ทีมอาชีพจากประเทศญี่ปุ่น
พลเอกเดชา กล่าวว่า จากการรายงานของ “โค้ชตั้ม” พ.อ.อ.วิสุทธิ์ กสิยะพัท ผู้จัดการทีมชาติไทยระบุว่า การแข่งขันเลอ ทัวร์ เดอ ลังกาวี 2024 มีบรรยากาศการชิงชัยเข้มข้นเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นหนึ่งในรายการระดับโปรซีรีส์ ของสหพันธ์จักรยานนานาชาติ (ยูซีไอ) มีทีมอาชีพระดับสูงสุด “ยูซีไอ เวิลด์ทีม” และทีมระดับดิวิชั่นสอง “ยูซีไอ โปรทีม” มาร่วมประชันฝีเท้าจำนวนถึง 7 ทีม ในขณะที่มีทีมอาชีพระดับ “ยูซีไอ คอนติเนนตัลทีม” อีก 9 ทีมจากทั่วทุกมุมโลก ส่งผลให้อันดับเวลารวม 20 อันดับแรก เมื่อสิ้นสุดการแข่งขันสเตจที่ 6 ปรากฏว่าเป็นนักปั่นจากทวีปยุโรป 19 คน และจากประเทศสหรัฐอเมริกาเพียงคนเดียว ส่วนนักปั่นในเอเชีย มีเพียง มานาบุ อิชิบาชิ นักปั่นในทีมเจซีแอล ยูเกียวจากญี่ปุ่น ที่มีอันดับเวลารวมดีที่สุดเป็นอันดับ 23
“เสธ.หมึก” กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม สำหรับผลงานของทีมชาติไทยตลอดการแข่งขันที่ผ่านมา 6 สเตจก็เป็นที่น่าพอใจ โดยในอันดับเวลารวมนักปั่นเอเชียประเภทบุคคล “เฟรม” ส.อ.ธนาคาร ไชยยาสมบัติ ยังคงเกาะติดในอันดับ 4 หลังจบสเตจที่ 6 เส้นทางบาตู ปาฮัต-กุไล ระยะทาง 123.4 กม. ในขณะที่ 3 อันดับแรกเป็นนักกีฬาญี่ปุ่นทั้งหมด ได้แก่ มานาบุ อิชิบาชิ และ ยูมะ โคอิชิ ของทีมยูเกียว ในอันดับ 1 และ 2 ส่วนอันดับ 3 เป็นไคโกะ คูบาสะ จากทีมไอซานเรซซิง ซึ่งธนาคารทำเวลาตามหลังอิชิบาชิ ผู้นำอยู่เพียง 2 นาที 45 วินาที ส่วนนักปั่นทีมชาติไทยคนอื่น ๆ ประกอบด้วย “มะตูม” พ.อ.อ.พีระพล ชาวเชียงขวาง, “วุฒิ” ส.ท.สราวุฒิ สิริรณชัย, “ดอย” ร.ต.ท.นวุติ ลี้พงศ์อยู่, “เกมส์” นายนพชัย กล้าหาญ และ “ออม” นายรัชชานนท์ เยาวรัตน์ ต่างก็ช่วยกันทำเวลาให้ทีมชาติไทยติดเป็นอันดับ 2 ในอันดับเวลารวมทีมเอเชีย ส่วนอันดับ 1 เป็นของเจซีแอล ยูเกียว ขณะที่อันดับ 3 เป็นทีมอาชีพมาเลเซีย โปร ไซคลิง ตามหลังไทยเราอยู่ 1 นาทีเศษ
พลเอกเดชา กล่าวต่อว่า สำหรับการแข่งขันสเตจที่ 5 เมื่อวันที่ 3 ต.ค.ที่ผ่านมา เส้นทาง กัวลาลัมเปอร์ – มะละกา ระยะทาง 267.5 กม. โค้ชวิสุทธิ์รายงานว่าการแข่งขันใช้ความเร็วสูงมากแม้จะมีฝนตกอย่างหนักเป็นระยะ ๆ ตลอดเส้นทางแข่งขัน และเป็นที่น่ายินดีว่าในที่สุดแล้ว “เจ้าวุฒิ” สราวุฒิ สิริรณชัย ของทีมชาติไทยสปรินต์เข้าเส้นชัยเป็นอันดับที่ 15 และคว้าตำแหน่ง “เบสต์ เอเชียน ไรเดอร์” หรือนักปั่นยอดเยี่ยมเอเชีย ประจำสเตจมาครองสำเร็จด้วยความเร็วเฉลี่ยที่สูงถึง 46.6 กม. ต่อชั่วโมง
“จากผลงานของทีมชาติไทย ทำให้เราได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนมาเลเซียเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นทีมเดียวในภูมิภาคอาเซียนที่มีผลงานสม่ำเสมอตลอดเส้นทางการแข่งขันที่ทางเจ้าภาพวางเส้นทางเอาไว้ค่อนข้างยาก โดยเฉพาะในสเตจที่ 3 และสเตจที่ 4 ซึ่งสภาพเส้นทางเป็นภูเขาสูง ขณะที่เส้นทางในสเตจทางราบนักกีฬาไทยก็ยังคงมีผลงานที่เหนือกว่านักกีฬาจากอาเซียนอย่างเห็นได้ชัด โดยบรรดาสื่อมวลชนท้องถิ่นได้เข้ามาสัมภาษณ์โค้ชวิสุทธิ์และนักกีฬาไทยก่อนการแข่งขันสเตจที่ 6 จะเริ่มขึ้น และเชื่อว่าทีมชาติไทยจะยังคงครองความยิ่งใหญ่ในจักรยานประเภทถนนในภูมิภาคอาเซียนไปอีกนาน” พลเอกเดชา กล่าว
ทั้งนี้ พลเอกเดชา กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการแข่งขันจักรยานทางไกล เลอ ทัวร์ เดอ ลังกาวี 2024 ในอีก 2 สเตจที่เหลือในวันที่ 5 และ 6 ตุลาคม จะยกทั้งขบวนไปแข่งขันในพื้นที่รัฐซาราวัก บนเกาะบอร์เนียว ซึ่งโค้ชวิสุทธิ์ก็ได้รายงานเพิ่มเติมว่าทั้ง 2 สเตจเป็นการแข่งขันทางราบ ระยะทางไม่มากนัก โอกาสที่จะทำเวลาตีตื้นแซงขึ้นไปทั้งในประเภทบุคคลและทีมเอเชียยากมาก ดังนั้นจะวางเกมให้นักปั่นทีมชาติไทยคุมเกมในกลุ่มเป็นหลัก เพื่อรักษาตำแหน่งอันดับ 2 ทีมยอดเยี่ยมเอเชียและอันดับ 4 บุคคลยอดเยี่ยมเอเชียของธนาคารเอาไว้ให้ได้ ก็ต้องขอแรงใจจากพี่น้องชาวไทยช่วยเชียร์นักปั่นไทยให้ประสบความสำเร็จในการแข่งขันครั้งนี้ด้วย
