21 Dec 2024

‘สาคร-ภูริทัติ’ ยึดแชมป์เพาะกายไทยแลนด์ โอเพ่น มาสเตอร์เกมส์อีกสมัย

sports02032402

“ต้น” สาคร สุขสวัสดิ์ จาก ชมรมกีฬาเพาะกายและฟิตเนส จ.นครปฐม อดีตทีมชาติ รองแชมป์โลกแอธเลติกฟิสิค ความสูงไม่เกิน 170 ซม.ปี 2017 ที่พัทยา คว้าแชมป์ แอธเลติกฟิสิคชาย อายุ 50 ปี ขึ้นไป 2 สมัย ส่วน ภูริทัติ ฤทธิศร จาก บาร์เบลยิม ได้แชมป์สปอร์ตฟิสิค ชาย อายุ 50 ปี ขึ้นไป สมัย 3 เพาะกาย  ไทยแลนด์ โอเพ่น มาสเตอร์เกมส์ ครั้งที่ 4 วันแรก

การแข่งขันกีฬาสูงอายุ นานาชาติ ไทยแลนด์ โอเพ่น มาสเตอร์เกมส์ ครั้งที่ 4 ประจำปี 2024 หรือ ทีโอเอ็มจี ที่เชียงใหม่เป็นเจ้าภาพ เมื่อวันที่ 2 มี.ค.เป็นการแข่งขันวันที่ 9 ชิงเหรียญทองมา 8 วัน มีการชิงเหรียญทองจากลีลาศ แบดมินตัน ตะกร้อ บริดจ์ เพาะกาย

เพาะกาย รอบชิงชนะเลิศ ที่แกรนด์ฮอลล์ ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงใหม่ แอร์พอร์ต เป็นวันแรกของการแข่งขัน มีพิธีเปิดการแข่งขัน โดยมี นายวิวัฒน์ วิกรานตโนรส เลขาธิการสมาคมกีฬาผู้สูงอายุไทย เป็นประธานเปิดการแข่งขัน ร่วมด้วย นายศุกรีย์ สุภาวรีกุล นายกสมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทย 

สำหรับวันแรก ของเพาะกาย ชิง 9 ทอง แอธเลติกฟิสิคชาย อายุ 50 ปี ขึ้นไป รุ่นทั่วไป ที่ 1 “ต้น” สาคร สุขสวัสดิ์  (ชมรมกีฬาเพาะกายและฟิตเนส จ.นครปฐม) อดีตทีมชาติ รองแชมป์โลกแอธเลติกฟิสิค ความสูงไม่เกิน 170 ซม.ปี 2017 ที่พัทยา คว้าแชมป์ 2 สมัย ที่ 2 นาวิน หมื่นเข็ม (นาว เวย์ โปรตีน) ที่ 3 พลตรีสุดชาย พลอยประดับ (ชมรมเพาะกาย จ.นนทบุรี) ที่ 4 ประวิตร โพธิ์ทอง (ชมรมกีฬาเพาะกายและฟิตเนส จ.นครปฐม) 

สปอร์ตฟิสิค ชาย อายุ 50 ปี ขึ้นไป รุ่นทั่วไป ที่ 1 ภูริทัติ ฤทธิศร (บาร์เบลยิม) แชมป์สมัย 3 ที่ 2 ปกรณ์ สิงหนาทนิติรักษ์ (อัลตร้าโปร) ที่ 3 คณยศ แสงทักษิณ (ชมรมเพาะกาย จ.ศรีสะเกษ) ที่ 4 พีระสิทธิ์ กันธิวัง (ชมรมเพาะกายสมาคมกีฬาจ.เชียงใหม่) ที่ 5 เอื้อชาติ หนุนภักดี (ชมรมเพาะกายสมาคมกีฬาจ.เชียงใหม่)

สปอร์ตฟิสิคชาย  อายุ 40-49 ปี รุ่นทั่วไป ที่ 1 ทศพล ชื่นชม อดีตทีมชาติ (นาร์แล็บส์) ที่ 2 พันธุ์พิพิธ พิพิธพันธุ์ (กายวี่)  ที่ 3 สมโภช รุ่งหรุ่ม (ชมรมกีฬาเพาะกายและฟิตเนส จ.นครปฐม)  ที่ 4 ชัยณรงค์ หิรัญกาญจน์ (ซุปเปอร์ ยิม เชียงราย) ที่ 5 จารุวัฒน์ บุญยืน (กายวี่)

สปอร์ตฟิสิค ชาย อายุ 30-39 ปี รุ่นความสูงเกิน 175 ซม. ที่ 1 เจษฎา อรุณวิจิตร ทีมชาติ (โพสฟิตเนส) ที่ 2 รัฐศาสตร์ รุ่งศิริทิพย์  (ชมรมเพาะกายสมาคมกีฬาจ.เชียงใหม่) ที่ 3 จักรวาล เปลา (ชมรมเพาะกายสมาคมกีฬาจ.เชียงใหม่) ที่ 4 ถิรวุฒิ มีพงษ์ (นาร์แล็บส์) ที่ 5 ชัยพร พูนชัย (ชมรมเพาะกายสมาคมกีฬาจ.เชียงใหม่)

แอธเลติกฟิสิคชาย อายุต่ำกว่า 35 ปี รุ่นความสูงไม่เกิน 170 ซม. ที่ 1 อนวัช กลิ่นด้วง (เอส.เค.ฟิตเนส) ที่ 2 ฤชานนท์ ตุลารักษ์ (เอ็มดี สปอร์ต ยิม เชียงราย) ที่ 3 สัณหภาสจ์ ฉ่ำพงษ์ (เมนทอร์ ยิม) ที่ 4 พลวิทย์ สิริรัตน์บรรจง) ที่ 5 อัคครินทร์ อุทธัง (ซุปเปอร์ยิม เชียงราย)

แอธเลติกฟิสิคชาย อายุต่ำกว่า 35 ปี รุ่นความสูงเกิน 170 ซม.ที่ 1 พีรทัต พรเจริญมุสิกุล (นาว เวย์ โปรตีน) ที่ 2 วันธิกรณ์ ชมกลิ่น (ชมรมกีฬาเพาะกายและฟิตเนส จ.นครปฐม) ที่ 3 ฮวง ฮลา (พม่า) ที่ 4 มิตจา เซียกเลอร์ (เยอรมนี) ที่ 5 ธณาวินทร์ จันทร์เพ็ญ (นาร์แล็บส์) 

แอธเลติกฟิสิคชาย อายุ 35-49 ปี รุ่นทั่วไป ที่ 1 ฉัตรดนัย เศรษฐศิริกุล (สุรินทร์ มัสเซิล) ที่ 2 สิรดนัย ปั้นทรัพย์ (กายวี่) ที่ 3 จักรวัฒน์ อินทะรังษี (สมคิดยิมแอนด์ฟิตเนส) ที่ 4 ชุณหณัฏฐ์ ศรีวิบูลย์ชัย (ชมรมเพาะกายและฟิตเนส จ.ระยอง) ที่ 5 เธียรสิทธิ์ รัตนเจริญ)

สปอร์ตฟิสิค ชาย อายุต่ำกว่า 30  รุ่นทั่วไป ที่ 1 กิตติธัช วงศ์เกย (โฮมยิม) ที่ 2 ณัฐชัย คงฉ่ำ (นาร์แล็บส์) ที่ 3 กิตติ ศรีสมบูรณ์ (ช้างยิมโคราช) ที่ 4 นนทวัฒน์ สมเนตร (มัสครูลาร์ แลร์) ที่ 5 สถาพร บุตรแขก (โพสฟิตเนส)

สปอร์ตฟิสิค ชาย อายุ 30-39 ปี รุ่นความสูงไม่เกิน 175 ซม.ที่ 1 เกษบุรินทร์ เนตรภักดี (นาว เวย์ โปรตีน) ที่ 2 ชัยสัฒน์ ขันถม (ชมรมเพาะกาย จ.ศรีสะเกษ) ที่ 3 นนทวัช มาลัย (คิง ฟิตเนส) ที่ 4 รชต พรมภักดี (ชมรมเพาะกายสมาคมกีฬาจ.เชียงใหม่)  ที่ 5 จูเลียน พรีเยอร์ (ฝรั่งเศส) 

นายศุกรีย์ สุภาวรีกุล นายกสมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า  ในการแข่งขันครั้งนี้ มีความพิเศษตรงที่ นักกีฬาอันดับ 1-5 ของ 18 รุ่นจะได้ไปแข่ง ชิงแชมป์ประเทศไทย (มิสเตอร์ไทยแลนด์) ในเดือนเม.ย. และสามารถเลือกรุ่นที่ลงแข่งได้ ซึ่งมิสเตอร์ไทยแลนด์ จะเป็นเวทีรายการแรกเพื่อก้าวสู่ทีมชาติในการแข่งขันกีฬานานาชาติต่อไป สำหรับนักกีฬาที่เข้าแข่งขันไทยแลนด์ โอเพ่นมาสเตอร์เกมส์ มีนักกีฬาเข้าแข่งขันมากกว่า 110 คน มีนักกีฬาจากต่างประเทศ ถือว่ามีพัฒนาการที่เติบโตขึ้น ทั้งทางจังหวัด และ นักกีฬาจากต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น สามารถสร้างนักกีฬาหน้าใหม่จากรายการนี้ รวมทั้งเปิดให้ทีมชาติได้แข่งแบบโอเพ่น

ด้าน “ต้น” สาคร สุขสวัสดิ์ อายุ 54 ปี เปิดเผยว่า ได้แชมป์มา 2 ปี ติดต่อกัน ปีที่แล้วได้แชมป์ที่ชลบุรี เล่นเพาะกายมา 8-9 ปี ติดทีมชาติ ได้รองแชมป์โลก แอธเลติกฟิสิค ความสูงไม่เกิน 170 ซม.ปี 2017 ที่พัทยา  สำหรับรายการนี้ ตั้งใจรักษาแชมป์ให้ได้และ กลับมาเป็นนักกีฬาทีมชาติอีกครั้ง หลังจากหายไป 7 ปี ตอนนี้ทำงาน เป็นเทรนเนอร์ที่สปป.ลาว เดินทางไปสอนก่อนโควิด-19 ปี 2018 จนถึงตอนนี้ สมัยเด็กๆ เล่นกีฬาได้ทุกอย่าง ตั้งแต่วพ.สมุทรสาคร เคยเป็นนักกีฬา ยิงปืน ปืนยาวอัดลม 10 เมตร แต่ด้วยความตัวเล็กเลยอยากตัวใหญ่ เลยมาเล่นเพาะกาย พอได้เล่นเพาะกายแล้ว ก็มีโอกาสติดทีมชาติ 

พออายุมากขึ้น มีความเหนื่อยความล้า ถ้าคนที่จะมาเบ่็นนักกีฬาเพาะกายขอให้ชอบออกกำลังกายก่อน ถ้าอยากมีกล้ามเนื้อก็มาเล่นเพาะกาย

ภูริทัติ ฤทธิศร อายุ 55 ปี เปิดเผยว่า ผมเล่นเพาะกายมาเกือบ 20 ปี เนื่องจากมีปัญาด้าน สุขภาพเริ่มอ้วน ตอนอายุ 32 ปี และ ตอนเด็กๆ อยากหาที่ออกกำลังกาย จึงเริ่มศึกษามาเรื่อยๆ จนเปิดฟิตเนสและเป็นเทรนเนอร์ ในปัจจุบัน จริงๆ กีฬาที่เคยเล่นชกมวย ตอนเรียนมัธยม พออายุมากขึ้นไม่อยากเล่นกีฬาปะทะ พอจบมหาวิทยาลัยทำงานออฟฟิศเริ่มอ้วน เลยศึกษาหาทางว่า จะออกกำลังกาย อย่างไร ศึกษาเรื่อยๆ เพราะคิดว่า ถ้าเราเล่นกีฬาด้วยตัวเราเอง เราก็มีกีฬาเพาะกายนี่แหละ จนมาเปิดยิมเอง ชื่อ บาร์เบล ยิม ที่นครปฐม แต่มีโอกาสแข่งเพาะกายมาได้ 8-9 ปี ตอนอายุ 47 ปี 

สำหรับรายการนี้ แข่งมา 4 ปี ผมเป็น แชมป์ตลอด พลาดเมื่อปีที่แล้ว ได้รองแชมป์ เมื่อปีที่แล้ว พอมาปีนี้เลยตั้งใจที่จะกลับมาทวงแชมป์ให้ได้ คิดว่าอยากจะรักษาแชมป์ให้ได้ตลอด เคยได้แชมป์หนุ่มกายงามสาวกล้ามสวย 2 สมัย จริงๆ คิดว่าจะเลิกเล่นเพาะกาย ตั้งใจใช้รายการนี้ เป็นแมตช์รีไทร์ตัวเอง เพราะว่า เคยโตที่เขียงใหม่ อยากกลับมาแข่งขันที่นี่ จนได้เหรียญทอง รู้สึกดีใจมากๆ แต่จริงๆ ก็คิดว่า จะเล่นกีฬานี้ แต่อาจจะไม่ได้ลงแข่ง เพราะว่า พออายุมากขึ้น การฝึกซ้อมเพื่อการแข่งขัน ค่อนข้างเหนื่อย แต่อาจจะเลือกรายการแข่งขันบางรายการ หรือไม่ก็ลงแข่งปีละ 1 ครั้ง