สมาคมจักรยานฯ ได้รางวัลธรรมาภิบาลทางการกีฬา
สมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้รับรางวัลธรรมาภิบาลทางการกีฬาจากมูลนิธิธรรมาภิบาลและต่อต้านทุจริต ในงานประกาศรางวัลและเชิดชูเกียรติ “วันนักกีฬายอดเยี่ยม” ประจำปี 2566 ของสมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาฯ จากผลงานการบริหารจัดการองค์กรที่ดี ทั้งการพัฒนาไปสู่ความเป็นเลิศได้อย่างยั่งยืน การพัฒนานักกีฬาขั้นพื้นฐาน และมีการพัฒนาบุคลากร จัดอบรมผู้ตัดสิน-ผู้ฝึกสอน-ช่างซ่อมจักรยานอย่างต่อเนื่อง ด้าน ณัฏฐ์ ธีรณัฐสุภานนท์ นายกสภาสมาคมธรรมาภิบาล และประธานมูลนิธิกองทุนพัฒนาการกีฬา เผยสมาคมกีฬาจักรยานฯ มีความโปร่งใสและตรวจสอบได้ สามารถตอบโจทย์ในการเป็นสมาคมกีฬาธรรมาภิบาลได้อย่างดียิ่ง ส่วน เสธ.หมึก ยืนยันสมาคมฯ มีการบริหารจัดการองค์กรอย่างเป็นระบบ มีความซื่อสัตย์สุจริต พร้อมมุ่งมั่นสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศไทยต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง
สมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาแห่งประเทศไทย ได้จัดงานประกาศรางวัลและเชิดชูเกียรติ “วันนักกีฬายอดเยี่ยม” ประจำปี 2566 ที่โรงแรมอโนมา แกรนด์ ราชประสงค์ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม ที่ผ่านมา โดยได้รับเกียรติจาก นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธาน พร้อมด้วย คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล กรรมการคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี เมมเบอร์) และรองประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ ในฐานะประธานคณะกรรมการจัดงาน, นายธนา ไชยประสิทธิ์ รองประธานคณะกรรมการโอลิมปิคฯ ในฐานะประธานคณะกรรมการพิจารณารางวัลฯ, นายวรวุฒิ พงษ์ธีระพล นายกสมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาฯ และบุคคลวงการกีฬาร่วมงานกันอย่างคับคั่ง
การมอบรางวัลดังกล่าวมีการพิจารณาผลงานในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา โดยมีนักกีฬา บุคลากรทางการกีฬา สมาคมกีฬา และผู้สนับสนุนการกีฬา เข้ารับรางวัลมากมาย สำหรับสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ภายใต้การบริหารงานของ “เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี ประธานสหพันธ์จักรยานแห่งอาเซียน (เอซีเอฟ) และนายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ ได้รับรางวัลธรรมาภิบาลทางการกีฬา โดยมี นายณัฏฐ์ ธีรณัฐสุภานนท์ นายกสภาสมาคมธรรมาภิบาล และประธานมูลนิธิกองทุนพัฒนาการกีฬา เป็นผู้แทนมอบรางวัล
นายณัฏฐ์ ธีรณัฐสุภานนท์ เปิดเผยว่า สำหรับรางวัลธรรมาภิบาลทางการกีฬา ทางมูลนิธิธรรมาภิบาลและต่อต้านทุจริต ได้ทำการคัดเลือกองค์กรต่าง ๆ เข้ารับรางวัลเป็นประจำทุกปี ในปีนี้ทางมูลนิธิฯ ได้คัดเลือกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ให้รับรางวัลดังกล่าว ความหมายของรางวัลธรรมภิบาลทางการกีฬา คือรางวัลในการบริหารจัดการองค์กรที่ดี มีการพัฒนากีฬาไปสู่ความเป็นเลิศ มีการพัฒนาองค์กรเพื่อไปสู่องค์กรเป็นเลิศและยั่งยืน ซึ่งสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ ได้ตอบโจทย์ใน 3 ประการได้เป็นอย่างดี ประการแรกคือการพัฒนาไปสู่ความเป็นเลิศได้อย่างยั่งยืน ประการที่สองคือการพัฒนากีฬาขั้นพื้นฐานของนักกีฬาที่จะก้าวไปสู่ความเป็นเลิศตั้งแต่ระดับเยาวชนได้อย่างยั่งยืน และประการสุดท้ายซึ่งเป็นประการสำคัญ สมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ ได้ส่งเสริมการพัฒนาบุคลากร มีการจัดอบรมทั้งผู้ฝึกสอน, ผู้ตัดสิน, ช่างซ่อมจักรยาน ในแต่ละระดับอย่างต่อเนื่อง
“นอกจากนี้สมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ ยังส่งเสริมให้คณะกรรมการบริหารสมาคมฯ ไปดำรงตำแหน่งกรรมการสหพันธ์กีฬาจักรยานทั้งในระดับอาเซียน ระดับเอเชีย และระดับนานาชาติ เหนือสิ่งอื่นใดในปีนี้สมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ มีการปิดงบดุลประจำปีตรงตามกำหนด ซึ่งตามความเห็นของผู้ตรวจสอบบัญชีที่ได้รับอนุญาตนั้น ระบุว่าสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ มีความโปร่งใสและสามารถตรวจสอบได้ เมื่อมองในมวลรวมทั้งหมดสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ สามารถตอบโจทย์ในการเป็นสมาคมกีฬาธรรมาภิบาล ได้อย่างดียิ่งครับ” นายณัฏฐ์ กล่าว
ด้าน พลเอกเดชา ได้เปิดเผยว่า ขอขอบคุณมูลนิธิธรรมาภิบาลและต่อต้านทุจริต ที่ได้มอบรางวัลธรรมภิบาลทางการกีฬา ให้แก่สมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ตนเองได้เข้ามาบริหารงาน ก็ได้ยึดถือและปฏิบัติตามแผนยุทธศาสตร์ของสมาคมฯ มาโดยตลอด ทั้งเรื่องการพัฒนานักกีฬาไปสู่ความเป็นเลิศ การพัฒนานักกีฬาขั้นพื้นฐาน และการพัฒนาบุคลากรให้มีทักษะความรู้เพิ่มขีดความสามารถในการปฏิบัติหน้าที่ และที่สำคัญจะต้องบริหารงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต โปร่งใสชัดเจน และสามารถตรวจสอบได้ สำหรับการพัฒนานักกีฬาจักรยาน เราเริ่มพัฒนาขั้นพื้นฐานตั้งแต่ระดับยุวชนอายุ 2-3 ขวบ จนกระทั่งก้าวไปสู่ระดับสูงสุดคือการได้ไปแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์
พลเอกเดชา กล่าวอีกว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา สมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้จัดการแข่งขันจักรยานชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทานฯ ประเภทต่าง ๆ ปีละ 28 สนาม ประกอบด้วย ประเภทถนน, เสือภูเขา, บีเอ็มเอ็กซ์ และลู่ ประเภทละ 5 สนาม รวมถึงการแข่งขันจักรยานประเภทถนน และเสือภูเขาทางเรียบ “ไทยแลนด์ โอเพ่น” อีกรายการละ 4 สนาม นอกจากนั้นสมาคมกีฬาจักรยานฯ ยังได้จัดการแข่งขันจักรยานหนูน้อยขาไถ หรือ Balance Bike อีกปีละ 5 สนาม ซึ่งตอนนี้กฎระเบียบต่าง ๆ ยังไปคนละทิศละทาง แต่จะมีการหารือในกลุ่มสมาชิกชาติอาเซียนเพื่อกำหนดกฎระเบียบและกติกาการแข่งขันให้ชัดเจน ในการประชุมใหญ่สามัญ ประจำปี 2024 ของสหพันธ์จักรยานแห่งอาเซียน (เอซีเอฟ) หรือ “ACF Congress 2024” ในวันที่ 1 มิถุนายน ที่โรงแรม เดอะ แกรนด์ โฟร์วิงส์ คอนเวนชั่น หลังจากนี้ทุกประเทศในอาเซียนก็จะใช้กฎระเบียบและกติกาเดียวกัน
นายกสองล้อไทย กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้สมาคมกีฬาจักรยานฯ ยังได้นำวิทยาศาสตร์การกีฬามาใช้อย่างเต็มรูปแบบในการพัฒนานักกีฬา โดยร่วมมือกับ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, มหาวิทยาลัยมหิดล, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, โรงเรียนวิทยาศาสตร์การเคลื่อนไหวและสุขภาพ วิทยาลัยวิทยาศาสตร์การแพทย์เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ รวมถึงศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬา การกีฬาแห่งประเทศไทย ที่ได้นำทีมงานระดับอาชีพมาเจาะเลือดหาค่าต่าง ๆ และการตรวจวิเคราะห์สมรรภาพร่างกายนักกีฬาเพื่อวางโปรแกรมฝึกซ้อมอย่างเหมาะสมในแต่ละประเภท รวมถึงการนำโภชนาการทางการกีฬามาใช้ด้วย จนกระทั่งนักกีฬาทีมชาติไทยประสบความสำเร็จได้โควตาไปโอลิมปิกเกมส์ 2024 จำนวน 5 ที่นั่ง ประกอบด้วย ประเภทถนน 3 ที่นั่ง รายการโรดเรซหญิง และไทม์ไทรอัลหญิง และโรดเรซชาย นักกีฬาได้แก่ ส.อ.หญิง เพชรดารินทร์ สมราช, ส.ต.หญิง ชนิภรณ์ บัตริยะ, ส.ต.ธนาคาร ไชยยาสมบัติ / ประเภทบีเอ็มเอ็กซ์ เรซซิ่ง 1 ที่นั่งจาก ส.ท.โกเมธ สุขประเสริฐ และประเภทลู่ 1 ที่นั่งจาก “ทีเจ” จาย อังค์สุธาสาวิทย์
“เสธ.หมึก” กล่าวเพิ่มเติมว่า เวลานี้นักกีฬาประเภทถนนเก็บตัวฝึกซ้อมอยู่ที่เขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา ส่วนโกเมธ ฝึกซ้อมอยู่ที่สนามบีเอ็มเอ็กซ์ สวนกีฬากมล เขตหนองจอก และ “ทีเจ” จาย เก็บตัวอยู่ที่ศูนย์ฝึกจักรยานโลก (WCC) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ สมาคมกีฬาจักรยานฯ ยังได้วางแผนระยะยาวอีกว่า หลังจบการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2024 เรียบร้อยแล้ว ก็จะต้องเตรียมนักกีฬาระดับเยาวชนเพื่อเข้าแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเยาวชนฤดูร้อน 2026 ที่กรุงดาร์กา ประเทศเซเนกัล ระหว่างวันที่ 31 ตุลาคม ถึง 18 พฤศจิกายน 2569 ดังนั้นก็จะมีการส่งนักกีฬาเดินทางไปเก็บคะแนนสะสมเพื่อให้ได้โควตาต่อไป
“สมาคมกีฬาจักรยานฯ มีการบริหารจัดการองค์กรที่เป็นระบบ มีความซื่อสัตย์ สุจริต โปร่งใส และตรวจสอบได้ ตามแนวทางที่มูลนิธิธรรมาภิบาลและต่อต้านทุจริตให้ความสำคัญ ก็ต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่และบุคลากรของสมาคมฯ ทุกคนที่ได้ร่วมแรงร่วมใจกันตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ตามนโยบายที่วางเอาไว้ นอกจากนั้นสมาคมกีฬาจักรยานฯ มีแผนยุทธศาสตร์ในพัฒนานักกีฬาและบุคลากรอย่างครบวงจร ทั้งการพัฒนานักกีฬาไปสู่ความเป็นเลิศ การพัฒนานักกีฬาขั้นพื้นฐาน การอบรมพัฒนาบุคลากรฝ่ายต่าง ๆ โดยเฉพาะการดูแลนักกีฬา สมาคมฯ ดูแลอย่างใกล้ชิดเหมือนลูกเหมือนหลาน ให้พวกเขาอยู่ดีกินดี แต่ทุกคนก็ต้องเคารพกติกา และที่สำคัญต้องอยู่ในระเบียบวินัย ขอขอบคุณทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทำให้สมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้รับรางวัลอันทรงเกียรตินี้ เราจะยึดถือและปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และจะมุ่งมั่นสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศไทยอย่างไม่หยุดยั้ง ขอขอบคุณครับ” พลเอกเดชา กล่าวในที่สุด