ระวังอันตราย หากใช้งานแปรงสีฟันผิดประเภท
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เตือนอันตรายการใช้งานแปรงสีฟันผิดประเภท เนื่องจากกรณีข่าวต่างประเทศได้นำเสนอข่าวผู้ใช้แปรงสีฟันดันอาหารที่ติดคอสำเร็จ แต่กลืนแปรงสีฟันเข้าไปด้วย อาจต้องผ่าตัดนำแปรงสีฟันออกมาทางช่องท้อง
ทันตแพทย์หญิงวรางคนา เวชวิธี ผู้อำนวยการสำนักทันตสาธารณสุข กล่าวว่า จากกรณีข่าวต่างประเทศได้นำเสนอข่าวผู้ใช้แปรงสีฟันดันอาหารที่ติดคอ ปรากฏว่า ดันอาหารสำเร็จ แต่กลืนแปรงสีฟันเข้าไปด้วย โดยแพทย์ได้ทำการวางยาสลบ และใช้อุปกรณ์นำแปรงออกมาได้ ซึ่งจากเหตุการณ์ดังกล่าว พบว่า เหตุการณ์นี้ไม่ใช่ครั้งแรก
เนื่องจากมีรายงานพบแปรงสีฟันหลุดลงคออย่างต่อเนื่อง ด้วยสาเหตุที่แตกต่างกัน กรมอนามัยจึงย้ำเตือนประชาชน ไม่ควรใช้งานแปรงสีฟันผิดประเภท เช่นเดียวกับกรณีที่เป็นข่าว ซึ่งแพทย์อาจช่วยได้โดยไม่ต้องผ่าตัด แต่ยังเคยมีกรณีในประเทศไทยที่แปรงสีฟันหลุดเข้าไปในคอแล้วต้องผ่าตัดออกมาทางช่องท้อง
“ทั้งนี้ แปรงสีฟันเป็นอุปกรณ์สำคัญในการทำความสะอาดช่องปาก ให้เลือกขนาดพอเหมาะกับช่องปาก ไม่ใหญ่เกินไป ควรเลือกขนแปรงปานกลาง นุ่ม หรือนุ่มพิเศษ เพื่อลดการทำอันตรายต่อผิวฟันและขอบเหงือก ด้ามแปรงยาวพอเหมาะ จับได้ถนัดมือ ปลายขนแปรงมนกลมหรือเรียวแหลม ลักษณะปลายขนแปรงเรียบเสมอกัน ไม่ซิกแซก เพื่อให้แปรงสีฟันแนบกับผิวบริเวณคอฟันมากที่สุด โดยทั่วไปควรเปลี่ยนแปรงสีฟันทุก 3 เดือน หรือ เมื่อขนแปรงบาน เพราะประสิทธิภาพในการทำความสะอาดฟันจะลดลง และอาจทำอันตรายต่อเหงือกในขณะที่แปรงฟันได้” ผู้อำนวยการสำนักทันตสาธารณสุข กล่าว