มหกรรมกีฬาเดียว3เหรียญทอง ‘สายสุนีย์’ เผยเกินฝันไปมาก
สายสุนีย์ จ๊ะนะ คว้าเหรียญทองเหรียญที่สามให้ตนเองในฟันดาบ เอเป้ บุคคลหญิง คลาส B เจ้าตัวเผยเกินฝันไปมาก ในมหกรรมกีฬาพาราลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 6 กันยายนที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่นประเทศฝรั่งเศส
ผลงานของนักกีฬาไทยเริ่มจากฟันดาบ ที่ กร็อง ปาเลส์ ในประเภทเอเป้ บุคคลหญิง คลาส B สายสุนีย์ จ๊ะนะ จอมดาบวัย 50 ปี คว้าเหรียญทองที่สามให้ตัวเองสำเร็จ โดยก่อนหน้านี้ในปารีสเกมส์ เธอคว้าไปแล้ว 2 ทอง จาก เซเบอร์ และ ฟอยล์บุคคลหญิง
สาวจากเชียงใหม่เจ้าของเหรียญทองเอเป้ เมื่อปี 2004 กับ 2012 ประเดิมรอบ 8 คนสุดท้าย ชนะ โอเลนา เฟโดตา-อิไซเยวา จากยูเครน 15-6 จากนั้นรอบรองชนะเลิศ ชนะ ถิง ตง งา จากฮ่องกง 15-7 เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศพบ คัง ซูจากจีน ซึ่ง สายสุนีย์ ซึ่งอยู่ในฟอร์มสุดยอดชนะไป 15-7
ชัยชนะทำให้ สายสุนีย์ คว้าเหรียญทองที่ 3 ให้ตัวเองและเป็นเหรียญทองที่ 6 ของนักกีฬาไทยในพาราลิมปิกเกมส์ 2024 และจากการที่เธอได้ 3 ทอง ทั้ง เซเบอร์, ฟอยล์ และ เอเป้ ทำให้เธอสร้างประวัติศาสตร์เป็นสตรีคนแรกที่คว้า 3 เหรียญทองฟันดาบบุคคลหญิงในพาราลิมปิกครั้งเดียว รวมทั้งทำให้เธอได้เหรียญทองพาราลิมปิกไปแล้วทั้งหมด 5 เหรียญทอง
ทั้งนี้ ย้อนประวัติศาสตร์ฟันดาบพาราลิมปิกเกมส์ 16 ครั้งที่ผ่านมา ซึ่งจัดครั้งแรกปี 1960 หรือ 64 ปีที่แล้วนั้น มีคนเดียวที่เก็บ 3 เหรียญทองบุคคลในครั้งเดียว แต่เป็นของฝ่ายชายคือ โรแบร์โต แมร์สัน จากอิตาลี ทำได้เมื่อปี 1968 หรือ 56 ปีที่แล้ว
นอกจากนั้น 3 เหรียญทอง ยังทำให้ สายสุนีย์ จะได้รับเงินรางวัลจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ รวมแล้วถึง 21.6 ล้านบาท จากเหรียญทองละ 7.2 ล้านบาท ทั้งนี้ สายสุนีย์ ยังเหลือคิวแข่ง เอเป้ ทีมหญิง วันที่ 7 ก.ย.นี้ เริ่มที่รอบ 8 ทีมสุดท้าย เวลาไทย 16.30 น. ทีมไทย พบ เกาหลีใต้
สายสุนีย์ กล่าวว่า “ดีใจ ภูมิใจในตัวเอง ไม่คิดว่าจะทำได้ น้ำตาแห่งตวามดีใจ น้ำตาแห่งความปลื้มปิติ บรรยายออกมาไม่ได้ มีความสุขมาก ๆ ไม่คิดว่าจะทำได้ขนาดนี้ ตั้งเป้าแค่ 1 ทองในเอเป้ สิ่งที่ทำให้ประสบความสำเร็จ คือตั้งสมาธิอยู่กับตัวเอง ก่อนแข่งจะไม่คิดว่าได้อยู่แล้ว แต่คิดว่าต้องทำหน้าที่ของตัวเอง ทำให้ได้อย่างที่ซ้อม มีทีมงานฟันดาบที่ดี มีผู้ฝึกสอนที่ดี เตือนสติว่าต้องเล่นแบบไหน แบบนี้นี้ไม่ได้แล้ว ต้องหนี ต้องดึง”
เจ้าของ 3 เหรียญทองฟันดาบบุคคลเผยอีกว่า ในการเตรียมตัว ต้องขอบคุณ การกีฬาแห่งประเทศไทย(กกท.), กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ, สมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทย, คณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย ที่สนับสนุนดีมาก ขอขอบคุณทุกกำลังใจ ตนเองและทีมกีฬาไทย ที่ส่งข้อความมา ตนเห็นหมด แต่ขอโทษที่ไม่ได้ไปตอบ เพราะต้องพยายามตั้งสมาธิ
“ขอบคุณ คุณจุตินันท์ ภิรมย์ภักดี อดีตประธานคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย ที่อยู่บนฟ้า ส่งจิตมาให้ สายสุนีย์ มีพลัง รวมทั้งคุณณัยณพ ภิรมย์ภักดี ประธานคนปัจจุบันที่เป็นกำลังใจอย่างใกล้ชิด” สายสุนีย์กล่าว ”ขอบคุณสมาคมวีลแชร์ฟันดาบคนพิการแห่งประเทศไทย, สิงห์ รวมถึง เดอะมอลล์ กรุ๊ป ที่จ้างทำงาน และให้ทำหน้าที่จนสำเร็จ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สื่อมวลชน รวมทั้งครอบครัวเป็นกำลังใจยิ่งใหญ่มาก ๆ ขอเอาประสบการณ์ชีวิตของตนเอง เป็นกำลังใจให้ทุกคนที่ท้อแท้ เพราะกว่าจะถึงวันนี้ไม่ง่าย ตั้งแต่ประสบอุบัติเหตุ จนพิการ จนมาถึงวันนี้ หวังว่าจะเป็นบันดาลใจให้คนที่ท้อ“
ทีมฟันดาบยังได้อีก 1 เหรียญเงิน จาก วิสิทธิ์ กิ่งมะนาว ใน เอเป้ บุคคล ชาย คลาส B โดยนักดาบวัย 35 ปี รอบ 16 คนสุดท้าย ชนะ มิชิโนบุ ฟูจิตะ จากญี่ปุ่น 15-5, รอบ 8 คนสุดท้าย ชนะ อัมมาร์ อาลี จากอิรัก 15-13, รอบรองชนะเลิศ ชนะ เจีย จาง จากจีน 15-13 ก่อนที่รอบชิงชนะเลิศ แพ้ ดิมิทรี คูตยา จากสหราชอาณาจักร 10-15
ด้าน เทเบิลเทนนิส ทำผลงานได้มา 1 เหรียญเงิน กับ 2 เหรียญทองแดง โดย 1 เหรียญเงิน จาก รุ่งโรจน์ ไทยนิยม ลงแข่งชายเดี่ยว คลาส MS6 รอบชิงชนะเลิศ แพ้ มัตเตโอ ปาเรนซา จากอิตาลี 0-3 เกม 6-11, 6-11, 5-11
นักตีลูกเด้งไทยวัย 37 ปี ที่ได้ 2 เหรียญเงินจากปารีสเกมส์ กล่าวว่า “อิตาลีคนนี้เจอมา 4 ครั้งแล้ว ปกติสูสี แต่วันนี้คู่แข่งทำการบ้านดี ผมจึงตีอึดอัด ไม่ได้เล่นเกมตัวเอง ไปเข้าเกมคู่แข่งหมด ครั้งนี้ก่อนแข่งมีอาการบาดเจ็บมาก ข้อเท้าอักเสบ ขอขอบคุณทีมแพทย์การกีฬาประเทศไทย ดูแลอย่างดี จนหายและลงแข่งได้ ขอโทษชาวไทยที่ไม่ได้ทอง แต่ก็พอใจประเภทเดี่ยว แอบเสียดายประเภทคู่”
ส่วนรอบรองชนะเลิศ เทเบิลเทนนิส รอบรองชนะเลิศ ชายเดี่ยว คลาส MS8 พิสิษฐ์ หวังผลพัฒนศิริ แพ้ วิคเตอร์ ดิดุก จากยูเครน 1-3 เกม 2-11, 11-8, 6-11, 8-11 และ ชายเดี่ยว คลาส MS7 เฉลิมพงษ์ พันภู่ แพ้ ชัว หยัน จากจีน 2-3 เกม 11-5, 17-19, 8-11, 11-3, 3-11 ทั้ง พิสิษฐ์ และ เฉลิมพงษ์ คว้าเหรียญทองแดง
สรุปผลงานทัพไทยหลังจบการแข่งขันวันที่ 6 ก.ย. ทัพไทย คว้าไปแล้ว 6 เหรียญทอง, 9 เหรียญเงิน และ 11 เหรียญทองแดง อยู่อันดับ 18 ของตารางเหรียญ
นับเป็นผลงานที่ดีสุดในประวัติศาสตร์นักกีฬาไทย ตั้งแต่ส่งแข่งพาราลิมปิกเกมส์ก่อนหน้านี้ 9 ครั้ง ตั้งแต่ปี 1988 หรือ 36 ปีที่แล้ว โดยก่อนหน้านี้ ดีสุดคือ ปี 2016 ที่ริโอ เดอ จาเนโร 6 ทอง 6 เงิน และ 6 ทองแดง แต่ “ปารีสเกมส์ 2024” ล่าสุดทัพไทยคว้าทองเท่ากัน แต่เหรียญเงินเยอะกว่า