20 Dec 2024

ผลงานโดดเด่น ‘เสธ.หมึก’ นั่งนายกสองล้อสมัยที่ 3 

bike19032405

“เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี นั่งเก้าอี้นายกสมาคมกีฬาจักรยานฯ เป็นสมัยที่ 3 ติดต่อกัน หลังสโมสรสมาชิกพร้อมใจเทคะแนนเสียงอย่างเป็นเอกฉันท์ บริหารงานต่ออีก 4 ปี (พ.ศ.2567-2571) โดยไม่มีคู่แข่งมาต่อกร ด้วยผลงานการบริหารงานที่โดดเด่นในการผลักดันให้นักปั่นไทยคว้าโควตาไปแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่ประเทศฝรั่งเศส ได้มากถึง 4 ที่นั่ง และรอลุ้นตั๋วใบที่ 5 จาก จาย อังค์สุธาสาวิทย์ ที่มีโอกาสได้ไป ปารีสเกมส์” มากกว่า 90% โดยเหลือการแข่งขันอีกเพียง 1 รายการเท่านั้น ขณะที่งบดุลประจำปี 2566 สมาคมกีฬาจักรยานฯ ประสบปัญหาขาดทุนกว่า 22 ล้านบาท 

          “เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นประธานการประชุมใหญ่สามัญ ประจำปี 2567 ที่โรงแรมโกลเด้น ทิวลิป ซอฟเฟอรีน เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2567 โดยมีสโมสรสมาชิกเข้าร่วมประชุม 48 สโมสร จากทั้งหมด 51 สโมสร เกินครึ่งหนึ่งตามระเบียบข้อบังคับสมาคมฯ ข้อที่ 35 ถือว่าครบองค์ประชุม สำหรับสาระสำคัญในการประชุมฯ สรุปได้ดังนี้ ประธานได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบว่า ในรอบปี 2567 ที่ผ่านมา สมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้จัดการแข่งขันจักรยานชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทานฯ ประเภทต่าง ๆ ทั้งประเภทถนน, เสือภูเขา, ลู่ และบีเอ็มเอ็กซ์ ประเภทละ 5 สนาม และการแข่งขันจักรยานเสือภูเขาทางเรียบ และประเภทถนน “ไทยแลนด์ โอเพ่น” ประเภทละ 4 สนาม รวม 28 สนาม รวมทั้งจัดการแข่งขันจักรยานหนูน้อยขาไถชิงแชมป์ประเทศไทยฯ อีกจำนวน 4 สนาม

          การดำเนินกิจการของสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ รอบปีพุทธศักราช 2566 ภายใต้การนำของ พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมฯ ประสบความสำเร็จอย่างดียิ่ง ทั้งการแข่งขันภายในประเทศ การแข่งขันระดับนานาชาติ การส่งนักกีฬาแข่งขันต่างประเทศ ไปจนถึงโครงการพัฒนาบุคลากร ที่สำคัญ พลเอกเดชา เหมกระศรี ได้รับความไว้วางใจจากสมาชิกอาเซียนทั้ง 11 ชาติ มีมติเป็นเอกฉันท์เลือกให้ดำรงตำแหน่งประธานสหพันธ์จักรยานแห่งอาเซียน หรือ ACF คนใหม่ ในการประชุมใหญ่สามัญของเอซีเอฟ เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2566 ที่เมืองเสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา โดยมีวาระบริหารงาน 4 ปี ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2023-2027 นอกจากนี้สมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้รับสโมสรสมาชิกเพิ่มอีก 2 สโมสร ได้แก่ สโมสร Gemburi และสโมสร Prime19 

          ส่วนผลงานนักปั่นทีมชาติไทยในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่ประเทศกัมพูชา ระหว่างวันที่ 5-17 พฤษภาคม 2566 นักปั่นไทยทำผลงานน่าพอใจได้มา 2 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน 2 เหรียญทองแดง ด้านการแข่งขันจักรยานประเภทถนนชิงแชมป์เอเชีย 2023 ที่จังหวัดระยอง ระหว่างวันที่ 17-23 มิถุนายน 2566 นักกีฬาทีมชาติไทยคว้ามาได้ 1 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน และ 2 เหรียญทองแดง ขณะที่การแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่นครหางโจว ประเทศจีน ระหว่างวันที่ 23 กันยายน – 8 ตุลาคม นักกีฬาจักรยานของไทยได้มา 1 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง นอกจากนี้ในการแข่งขันจักรยานบีเอ็มเอ็มเอ็กซ์ชิงแชมป์เอเชีย 2023 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ ส.ท.โกเมธ สุขประเสริฐ คว้าแชมป์รุ่นประชาชนชายมาครอง พร้อมได้โควตาไปแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2024 เป็นคนแรกของไทย

          สำหรับการคัดเลือกโควตาโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่ประเทศฝรั่งเศส สมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ มีนักกีฬาได้รับการคัดเลือกรวม 4 ที่นั่ง จากประเภทถนนจำนวน 3 ที่นั่ง แบ่งเป็น โรดเรซชาย 1 ที่นั่ง โรดเรซหญิง 1 ที่นั่ง และไทม์ไทรอัลบุคคลหญิง 1 ที่นั่ง ซึ่งนับเป็นโควตาที่มากที่สุดในภูมิภาคอาเซียน นอกจากนี้ยังได้จากประเภทบีเอ็มเอ็กซ์ เรซซิ่ง อีก 1 ที่นั่ง  จาก ส.อ.โกเมธ สุขประเสริฐ และยังรอลุ้นประเภทลู่ รายการคีริน อีก 1 ที่นั่ง จาก “ทีเจ” จาย อังค์สุธาสาวิทย์ ซึ่งมีโปรแกรมในการเข้าร่วมการแข่งขันเพื่อเก็บคะแนนสะสมเพิ่มเติมในรายการ “ยูซีไอ เนชั่นส์ คัพ 2024” อีก 1 สนาม ที่ประเทศแคนาดา ระหว่างวันที่ 12-14 เมษายน 

          สถานการณ์ล่าสุด จาย มีคะแนนสะสม 2,701 คะแนน รั้งอันดับ 12 ของโลก โดยมีนักปั่นประเทศตรินิแดด แอนด์ โตเบโก ตามาเป็นอันดับ 13 มี 2,524 คะแนน และนักปั่นประเทศคาซัคสถาน อยู่อันดับที่ 14 มี 2,372 คะแนน  โอกาสที่ “ทีเจ” จะได้โควตาคนที่ 5 ไปแข่งขัน “ปารีสเกมส์” มีมากกว่า 90% เนื่องจากโควตาสุดท้ายที่จะได้ไปโอลิมปิกเกมส์คือประเทศครินิแดดฯ แต่ตัวแปรที่จะทำให้จายพลาดตั๋วใบที่ 5 คือต้องให้นักปั่นจากคาซัคสถานคว้าอันดับ 1-3 ในการแข่งขันรายการ “ยูซีไอ เนชั่นส์ คัพ 2024” สนามสุดท้ายที่แคนาดา และจายไม่ได้คะแนนเลย ซึ่งโอกาสเป็นไปได้ค่อนข้างยาก 

         ด้านสถานะทางการเงินของสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ งบดุลประจำปี 2566 สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566 สมาคมฯ มีรายรับทั้งสิ้น 117,025,813.27 บาท มีรายจ่ายทั้งสิ้น 139,160,689.32 บาท จึงมารายจ่ายมากกว่ารายรับ 22,134,876.056 บาท หรือประสบปัญหาขาดทุนกว่า 22 ล้านบาท

          สำหรับวาระสำคัญคือการเลือกตั้งนายกสมาคมกีฬาจักรยานฯ หลังจากที่พลเอกเดชา บริหารงานมาจนครบวาระ 4 ปี ที่ประชุมมีมติให้ พลเอกเพิ่มศักดิ์ พวงสาโรจน์ เป็นประธานดำเนินการประชุม โดยสโมสรสมาชิกที่มีสิทธิ์ออกเสียงมีจำนวน 46 สโมสร จากที่เข้าร่วมประชุมทั้งหมด 48 สโมสร ยกเว้น 2 สโมสรที่เพิ่งรับเข้าเป็นสมาชิกใหม่ยังไม่มีสิทธิ์ออกเสียง จากนั้นผู้แทนจากสโมสรบีเอ็มเอ็กซ์ อบจ.สุพรรณบุรีได้เสนอชื่อ พลเอกเดชา เหมกระศรี ให้ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ ต่ออีกวาระหนึ่ง โดยสโมสรสมาชิกทั้ง 46 สโมสรมีมติเป็นเอกฉันท์เทใจยกมือให้ทั้งหมด ส่งผลให้ พลเอกเดชาได้รับเลือกให้เป็นนายกสมาคมฯ สมัยที่ 3 ติดต่อกัน มีวาระการบริหารงานอีก 4 ปี (พ.ศ.2567-2571)

          หลังการเลือกตั้ง พลเอกเดชา เปิดเผยว่า ขอขอบคุณสโมสรสมาชิกทั้ง 46 สโมสรที่ให้ความไว้วางใจตนเองดำรงตำแหน่งนายกสมาคมกีฬาจักรยานฯ ต่ออีก 1 สมัย สำหรับแผนงานหลังจากนี้คือเรื่องของการเตรียมนักกีฬาเยาวชนเข้าร่วมการแข่งขันกีฬายูธโอลิปิกเกมส์ 2026 ที่ประเทศเซเนกัล ก็จะทำการพิจารณานักกีฬาอายุระหว่าง 16-17 ปี ในประเภทถนน และเสือภูเขาเพื่อเป็นตัวแทนทีมชาติไทยไปแข่งขัน ส่วนบีเอ็มเอ็กซ์ยังไม่ได้รับการยืนยันจากยูซีไอ แต่เราก็ต้องเตรียมเอาไว้เช่นกัน นอกจากนี้ก็เตรียมการในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพช่วงปลายปี 2568 ตนเองในฐานะประธานสหพันธ์จักรยานแห่งอาเซียนก็จะพิจารณาในเรื่องของรายการชิงเหรียญทองให้ครบทุกประเภท รวมไปถึงการเตรียมทีมนักกีฬาด้วย ขอให้สโมสรสมาชิกฝึกซ้อมนักกีฬาประเภทต่าง ๆ เข้าแข่งขันรายการชิงแชมป์ประเทศไทย ซึ่งสมาคมฯ จะพิจารณาคัดนักกีฬาที่มีผลงานดี มีวินัย เป็นนักกีฬาทีมชาติไทยต่อไป

          พลเอกเดชา กล่าวอีกว่า นอกจากนั้นก็มีแผนยุทธศาสตร์ส่งนักกีฬาไปฝึกซ้อมและแข่งขันในต่างประเทศ หรืออาจส่งนักกีฬาไปฝังตัวอยู่กับสโมสรอาชีพดัง ๆ ของทวีปยุโรป เพื่อสร้างเสริมประสบการณ์ ส่วนเรื่องการแข่งขันจักรยานชิงแชมป์ประเทศไทย ขอฝากให้การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) พิจารณาการสนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติม จากที่สมาคมจัดการแข่งจัน 28 สนาม แต่ กกท. ให้งบประมาณจัดการแข่งขันมาเพียง 3 สนาม ซึ่งสมาคมฯ ต้องดิ้นรนหางบประมาณมาจัดเองเพื่อเฟ้นหานักกีฬาก้าวไปสู่ทีมชาติไทย ส่วนการพัฒนาบุคลากร สมาคมกีฬาจักรยานฯ สนับสนุนให้ผู้ตัดสินของไทยก้าวไปสู่ระดับอินเตอร์เพิ่มมากขึ้น และการส่งผู้ฝึกสอนออกไปเป็นวิทยากรในระดับนานาชาติ รวมทั้งการจัดอบรมผู้ฝึกสอน ผู้ตัดสินระดับต่าง ๆ ภายในประเทศ

          “เสธ.หมึก” กล่าวเพิ่มเติมว่า ด้านการจัดการแข่งขันจักรยานระดับนานาชาติอย่าง การแข่งขันจักรยานทางไกลนานาชาติ “ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2024” ระหว่างวันที่ 1-10 เมษายนนี้มีความคึกคักอย่างมาก มีทีมระดับอาชีพให้ความสนใจอยากมาร่วมแข่งขันจำนวนมาก ส่วนจังหวัดที่ร่วมเป็นเจ้าภาพก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี นอกจากนี้ตนก็จะเดินทางไปพบดับ มร.เดวิด ลาปาเตียนท์ ประธานสหพันธ์จักรยานนานาชาติ เพื่อหารือการพัฒนาการแข่งขันจักรยานทางไกลในประเทศไทย

          ขณะที่ ผู้แทนจากการกีฬาแห่งประเทศไทย กล่าวสรุปการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2567 ของสมาคกีฬาจักรยานฯ เป็นไปตามระเบียบวาระทุกประการ หลังจากนี้จะมีการตรวจสอบเรื่องการยื่นคำขอฯ ให้เป็นไปตามกฎหมาย ส่วนสโมสรสมาชิกที่เข้าร่วมประชุมก็ให้ความร่วมมือดี ไม่มีปัญหาติดขัดแต่อย่างใด