ปิดด้วยอีเกิ้ล-เบอร์ดี้ ‘จีโน่’ ยอมรับเหนือความคาดหมาย
อาฒยา ฐิติกุล ทำ 3 แต้มในสองหลุมสุดท้ายก่อนจบรอบ 7 อันเดอร์พาร์ 65 สี่วัน 22 อันเดอร์พาร์ 266 เฉือนชนะ แองเจิล หยิน สาวอเมริกันสโตรกเดียว คว้าแชมป์ซีเอ็มอี กรุ๊ป ทัวร์ แชมเปียนชิพ นับเป็ยชัยชนะใน เรซ ทู เดอะ ซีเอ็มอี โกลบ ครั้งแรกพร้อมรับเงินรางวัล 4 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 183 ล้านบาท มากที่สุดในประวัติศาสตร์กอล์ฟหญิง
ซีเอ็มอี กรุ๊ป ทัวร์ แชมเปียนชิพ รายการสุดท้ายของแอลพีจีเอทัวร์ 2024 ที่ ทีบูรอน กอล์ฟ คลับ ในเมืองเนเพิลส์ รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 21-24 พฤศจิกายน 2024 ชิงเงินรางวัลรวม 11 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 380.3 ล้านบาท เป็นการแข่ขันสโตรกเพลย์ 72 หลุมแบบไม่มีการตัดตัวของนักกอล์ฟ 60 อันดับจากคะแนนสะสม เรซ ทู เดอะ ซีเอ็มอี โกลบ
ผ่าน 54 หลุมแรก “จีโน่” อาฒยา ฐิติกุล นำร่วมกับ แองเจิล หยิน จากสหรัฐอเมริกา โดยจีโน่เปิดฉากรอบสุดท้ายด้วย 2 เบอร์ดี้ในสามหลุมแรกที่ส่งให้เธอหนีห่าง 2 สโตรกก่อนพลาดเสียโบกี้ที่หลุม 4 ขณะที่ หยิน เก็บเบอร์ดี้หลุมเดีบวกันทำให้สกอร์รวมขึ้นมานำร่วมกันอีกครั้ง
อาฒยา นำอีกครั้งจากเบอร์ดี้หลุม 7 พาร์ 4 แต่หยินขยับมานำจากเบอร์ดี้ที่หลุม 8 พร้อมหนีด้วยเบอร์ดี้ที่หลุม 10 และหลุม 11 ห่างเป็น 2 สโตรก จากนั้น อาฒยา ทำเบอร์ดี้หลุม 13 ไล่มาเหลือหนึ่งสโตรก ทั้งสองทำเบอร์ดี้หลุม 14 พาร์ 5 ก่อนที่ หยิน จะหนีห่าง 2 สโตรกจากเบอร์ดี้ที่หลุม 16 ด้วยสกอร์รวม 21 อันเดอร์พาร์
สองหลุมสุดท้าย จีโน่ ทำอีเกิ้ลที่หลุม 17 พาร์ 5 ส่วน หยิน พลาดเบอร์ดี้พัตต์ระยะ 5 ฟุต ส่งให้ให้ทั้งคู่ขึ้นแท่นทีออฟลุมสุดท้ายนำร่วมกัน ก่อนที่ อาฒยา จะโชว์ทีเด็ดแอพโพรชขึ้นไปเหลือระยะไม่ถึง 5 ฟุต ส่วน หยิน ตีออนห่างธง 25 ฟุตและพัตต์เบอร์ดี้ไกลไม่ลงก่อนแทปอินพาร์ เปิดโอกาสให้ อาฒยา มาเก็บเบอร์ดี้ลงไปก่อนจบรอบสุดท้าย 65 รวมสี่วัน 22 อันเดอร์พาร์ 266 เฉือนชนะไปเพียงสโตรกเดียว
อาฒยา คว้าแชมป์รายการนี้ไปครองเป็นครั้งแรก รับเงินรางวัล 4 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 138.3 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินรางวัลแชมป์มากที่สุดในประวัติศาสตร์กอล์ฟหญิง เป็นแชมป์ที่สองของเธอในปีนี้ต่อจากชัยชนะในรายการ ทีมดาว แชมเปียนชิพ ซึ่งอาฒยา คู่กับ หยิน ยัวหนิง จากจีน
นอกจากนั้น จีโน่ ยังครองมือหนึ่งของแอลพีจีเอทัวร์ปีนี้ด้วยเงินรางวัลรวมสูงสุด 6,059,309 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 208.8 ล้านลาท และเมื่อรวมกับเงินรางวัล เอออน รีสก์ รีวอร์ด อีก 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้ปีนี้เธอทำเงินรางวัลรวมเป็น 7,059,309 ดอลลาร์สหรัฐฯฯ หรือรประมาณ 243.3 ล้านบาท จากการเล่น 17 รายการ โดยจบใน 10 อันดับแรกมากถึง 12 รายการ
อาฒยา ซึ่งคว้าแชมป์แอลพีจีเอรายการที่ 4 ในชีวิตกล่าวว่า “วันนี้ก็เป็นวันที่ดีมาก จริง ๆ ก็ไม่ใช่วันที่จีนรู้สึกว่าตีเหล็กดี แต่ว่าน่าจะพัตต์ดี แต่ว่าสองหลุมสุดท้ายที่เกิดขึ้น จีนว่าเป็นอะไรที่เหนือความคาดหมาย จริง ๆ แล้ว จีนไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่หลุม 17 และ 18 ซึ่งทำให้มีโอกาสที่ดี แต่เหมือนกับการมีอีเกิ้ลนั้นมันมากกว่าที่คิดไว้ จากนั้นที่หลุมสุดท้าย ก็ตีช็อตที่สองได้ดีจริง ๆ และพัตต์ลงหลุม มันเหมือนกับว่า ผลตอบแทนของการทำงานหนักมาทั้งหมดของจีน มันสำเร็จขึ้นแล้ว”
สำหรับผลงานนักกอล์ฟไทยคนอื่น ๆ เอรียา จุฑานุกาล อดีตแชมป์รายการนี้สกอร์รวม 10 อันเดอร์พาร์ 278 อันดับสิบเก้าร่วม, ชเนตตี วรรณแสน, จัสมิน สุวัณณะปุระ และ ปาจรีย์ อนันต์นฤการ รวม 7 อันเดอร์พาร์ 281 อันดับสามสิบ, อาภิชญา ยุบล อีเวนพาร์ 288 อันดับห้าสิบสองร่วม, โมรียา จุฑานุกาล 1 โอเวอร์พาร์ 289 อันดับห้าสิบห้าร่วม และ “แพตตี้” ปภังกร ธวัชธนกิจ 6 โอเวอร์พาร์ 294 จบอันดับสามสิบ
หลังจบรายการนี้ ยังมีการมอบรางวัล วาร์โทรฟี และ รุกกี้แห่งปี โดย อายากะ ฟุรุเอะ คว้ารางวัลวาร์โทรฟี (Vare Trophy) ในฐานะนักกอล์ฟทำสกอร์เฉลี่ยต่ำสุดของฤดูกาลกลายเป็นนักกอล์ฟญี่ปุ่นคนแรกที่คว้ารางวัลนี้ และ มาโอะ ไซโกะ จากญี่ปุ่น คว้ารางวัลรุกกี้แห่งปี 2024 ไปครอง