บอสบลูแคนยอนประทับใจแมตช์เคแอลพีจีเอในไทย

นายประพันธ์ อัศวอารี ประธานกรรมการบริหาร สนามบลูแคนยอน คันทรี คลับ เผยประทับใจกับการจัดการแข่งขัน เคแอลพีจีเอ รายการบลูแคนยอน เลดีส์ แชมเปียนชิพ 2025 ซึ่งได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากเกาหลีใต้ รวมทั้งต้องการผลักดันให้รายการนี้ไปสู่ระดับนานาชาติ และเพิ่มความเข้มข้นให้มากกว่านี้ อีกทั้งต้องการพัฒนาสนามให้สมบูรณ์แบบสมกับการเป็นสนามกอล์ฟชั้นนำของประเทศที่มีชื่อเสียงระดับโลก

          นับเป็นปีที่ 2 ติดต่อกันกับการจัด เคแอลพีจีเอทัวร์ ของสนาม บลูแคนยอน คันทรี คลับ ซึ่งในปีนี้มีนักกอล์ฟร่วมแข่งขันทั้งสิ้น 120 คน แบ่งเป็นผู้เล่น 80 คนจาก เคแอลพีจีเอ ออร์เดอร์ ออฟ เมอริต และ 40 นักกอล์ฟรับเชิญจากทั้งไทยและนานาชาติ ชิงเงินรางวัล 800,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 27.65 ล้านบาท ระหว่างวันที่ 13-16 มีนาคมที่ผ่านมา

          นายประพันธ์ อัศวอารี ประธานกรรมการบริหาร สนามบลูแคนยอน คันทรี คลับ กล่าวว่า  “ได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากทางฝั่ง เคแอลพีจีเอ ทัวร์ ของเกาหลีฯ ในการจัดการแข่งขัน โดยเฉพาะสกอร์ของนักกอล์ฟที่ออกมา ซึ่งมีทั้งทั้งเกาหลีฯ ญี่ปุ่น จีน และ ไทย อยู่บนลีดเดอร์บอร์ด ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเป็นการแข่งขันที่เป็นของนักกอล์ฟเอเชียจริง ๆ”

          “มาถึงตรงนี้รู้สึกพอใจกับเสียงตอบรับที่ดีจากการแข่งขัน และสนามเองก็ได้แสดงศักยภาพในการจัดแข่งขันระดับนานาชาติ ซึ่งภาพที่ออกมาแสดงให้เห็นถึงพัฒนาการที่ดีของรายการนี้ที่คึกคักมากขึ้น และมีแนวโน้มที่ดีจากเสียงตอบรับของบรรดานักกอล์ฟในภูมิภาคเอเชียเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งความตื่นเต้นของ ซิกเนเจอร์ โฮล ของเราที่หลุม 14 พาร์ 3  ที่สวยงาม สร้างความประทับใจให้กับบรรดานักกอล์ฟ”

          ด้านการพัฒนาสนามบลูแคนยอน ที่เพิ่งคว้ารางวัลสนามกอล์ฟยอดเยี่ยมของประเทศไทย จากการประกาศรางวัลของ เวิลด์ กอล์ฟ อวอร์ดส์ 2024 ณ เมืองมาเดรา ประเทศโปรตุเกส นายประพันธ์ ยอมรับว่า “เราเองก็ไม่นิ่งนอนใจ และเชื่อมั่นว่ายังมีอีกหลายจุดที่เราต้องพัฒนาสนามให้สมบูรณ์แบบมากกว่านี้ โดยเฉพาะเรื่องสถานที่ต้องปรับปรุงให้ทันสมัยมากขึ้น แม้ว่าสนามของเราเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติว่าเป็นสนามที่ดีที่สุดของเมืองไทยก็ตาม”

          ความร่วมมือกับทางเคแอลพีจีเอนั้น บิ๊กบอสบลูแคนยอนบอกว่า “นับเป็นเรื่องที่ดีที่ทาง เคแอลพีจีเอ ทัวร์ เกาหลีฯ มองเห็นถึงศักยภาพของเรา และได้วางแผนที่จะจัดแข่งขันรายการนี้อีกหลายปี ทำให้เราอยากสร้างให้แมตช์นี้มีความสำคัญ และอยากให้เป็นหนึ่งในรายการแข่งขันกีฬาที่สร้างชื่อเสียง และช่วยประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวให้กับจังหวัดภูเก็ต”

          ส่วนเรื่องการจัดแข่งขันของสนาม บลู แคนยอนฯ ที่เตรียมมีการแข่งขันกอล์ฟเยาวชนหญิงนานาชาติ รายการ แอนนิกา เอเชีย แอท บลูแคนยอน คันทรี คลับ ภูเก็ต ในเดือนเมษายนนี้ “เราเองต้องการให้มีการจัดการแข่งขันกอล์ฟระดับนานาชาติให้มีมากขึ้น และตั้งเป้าหมายว่าจะมีการจัดแข่งขันอย่างน้อย 3-4 รายการต่อปี เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว และเศรษฐกิจให้จังหวัด ภูเก็ต” ประธานกรรมการบริหารสนามบลูแคนยอน กล่าวในที่สุด