งบฯโดนหั่น เพาะกายกัดฟันลุยอินโดหวังคว้าแชมป์เอเชียอีกครั้ง 

สมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทยคัด12 ขุนพลส่งเข้าร่วมการแข่งขันรายการเพาะกายและฟิตเนสชิงแชมป์เอเชีย ครั้งที่ 56 ที่ เมืองบาตัม ประเทศอินโดนีเซีย ระหว่างวันที่ 6-12 สิงหาคม 2567 หวังป้องกันตำแหน่งแชมป์เอเชียในปีนี้ แม้เจออุปสรรคโดนภาครัฐตัดงบประมาณ

          นายศุกรีย์ สุภาวรีกุล นายกสมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สำหรับปีนี้ ทางสมาคมฯ ได้ส่งนักกีฬาไปแข่งขันกีฬาเพาะกายและฟิตเนสชิงแชมป์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ครั้งที่ 18 ซึ่งจัดเป็นครั้งแรก ที่กรุงเวียงจันทน์ สปป.ลาว และรายการที่ 2 การแข่งขันรายการเพาะกายและฟิตเนสชิงแชมป์เอเชีย ครั้งที่ 56 ที่ เมืองบาตัม ประเทศอินโดนีเซีย ระหว่างวันที่ 6-12 สิงหาคม 2567 ทางสมาคมฯ ได้คัดนักกีฬาทั้งหมด 12 คน เพื่อส่งเข้าร่วมการแข่งขันรายการนี้ หวังป้องกันตำแหน่งแชมป์เอเชียในปีนี้ให้ได้

          การส่งนักกีฬาเพาะกายไปแข่งขันรายการนานาชาติของทาง สมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทย ถึงแม้จะเต็มไปด้วยอุปสรรคจากการที่ทางหน่วยงานภาครัฐไม่สนับสนุนงบประมาณในการส่งเข้าร่วมการแข่งขันในปีนี้ ทั้งที่เมื่อปีที่ผ่านมาในรายการชิงแชมป์เอเชีย 2023 ที่ประเทศเนปาล ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม 15 เหรียญทอง 11 เหรียญเงิน และ 8 เหรียญทองแดง พร้อมกับรางวัลถ้วยคะแนนรวมทีมหญิง อันดับที่ 1 และถ้วยคะแนนรวม ทีมชาย อันดับที่ 2 จากการแข่งขันดังกล่าว โดยเมื่อปีที่ผ่านมาได้รับการสนับสนุนงบประมาณให้ส่งนักกีฬา 41 คน แต่ในปี 2567 กลับไม่ได้รับการสนับสนุนให้ส่งเข้าร่วมการแข่งขันแต่อย่างใด

          ขณะนี้สมาคมต้องพบกับปัญหาอุปสรรคทางด้านงบประมาณการส่งนักกีฬาไปเข้าร่วมการแข่งขันในรายการระดับทวีปและระดับโลกเป็นอย่างมากเนื่องจากงบประมาณที่ทางสมาคมได้รับการจัดสรรจากหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ถูกตัดทอนออกไปจนหมดสิ้น สมาคมต้องหาทางออกในการที่จะต้องจัดส่งนักกีฬาไปเข้าร่วมการแข่งขันในระดับนานาชาติทุกรายการด้วยตนเอง เพราะเงินในส่วนที่สมาคมพึงได้เพื่อการพัฒนาและส่งแข่งขันถูกตัดทอนอีกทั้งเงินรางวัลจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติที่เคยได้รับมาตลอดจากการทำผลงานของนักกีฬาและสมาคมตั้งแต่ปี พ.ศ.2553 ก็มาถูกดึงรั้งค้างไม่ยอมจ่ายให้กับนักกีฬา ผู้ฝึกสอนและสมาคมอีกถึง 3 รายการ รวมยอดเงินเกือบ20ล้านบาท ทำให้ขณะนี้เกิดความยากลำบากในการทำงานอย่างยิ่ง สมาคมมีหน้าที่ในการพัฒนากีฬาเพาะกายให้เติบโตต่อไป

          สมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทย เป็นหนึ่งในห้าประเทศที่ร่วมก่อตั้งสหพันธ์กีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งเอเชียมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2502 และแชมป์มิสเตอร์เอเชียคนแรก ก็เป็นคนไทย จึงเป็นหน้าที่ของผู้บริหารสมาคมเพาะกายของไทยที่จะต้องสานต่อเจตนารมณ์ของบรรพชนที่ได้สร้างให้กับวงการกีฬาเพาะกายของไทยที่ได้พิสูจน์ฝีมือให้เป็นที่ประจักษ์แก่ชาติต่างๆ ทั้งในระดับทวีปและระดับโลกสืบไป

          สำหรับในการแข่งขันเพาะกายและฟิตเนสชิงแชมป์เอเชีย ครั้งที่ 56 ณ เมืองบาตัม ประเทศอินโดนีเซีย ระหว่างวันที่ 6-12 สิงหาคม 2567 นี้  ทางสมาคมได้เรียกตัวนักกีฬาที่เป็นแชมป์ทั้ง 6 คนจากรายการชิงแชมป์อาเซียน ที่ผ่านมาประกอบด้วย นายธนกฤต   ประจันตะเสน, นายนันทพงศ์ มุขดารา, นายกิตติศักดิ์ บุระดำ, นายราชาทรัพย์ เจริญทรัพย์, นางสาวยุพาพร สืบสวน, นางสาวจีรนันท์ สุรันต์

          และจากการแข่งขันรายการชิงแชมป์โลกที่เกาหลีใต้เมื่อปีกลายประกอบด้วยนางสาวสายใจ สุสมแก้ว, นางสาวกันติชา สีจันทร์, นางสาวจินตรามณฑ์ ทวีเมธีโชติ รวมถึงจากรายการชิงแชมป์ประเทศไทยล่าสุดคือ นายสิทธิชาติ  กับปะหะ, นายสายฟ้า  เสนีวงค์ และ นางสาวจิรฐา จุฑานิชกานต์

          โดยนักกีฬาทั้ง 12 คน ได้เข้ารับการทดสอบสมรรถภาพร่างกายที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬาและผ่านการทดสอบเกณฑ์การควบคุมสารต้องห้ามของการกีฬาแห่งประเทศไทยแล้วเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2567 

          ทั้งนี้การส่งนักกีฬาไปเข้าร่วมการแข่งขันเพียง 12 คนในครั้งนี้ก็เป็นไปตามข้อจำกัดทางด้านงบประมาณที่ทางสมาคมต้องดำเนินการเพียงลำพังแต่ก็คาดหวังว่าพลังศรัทธาและความเชื่อมั่นที่จะทำความดีสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยคงจะทำให้ทีมนักกีฬาเพาะกายของไทยได้ฝากผลงานให้เป็นที่ประจักษ์อีกครั้งหนึ่ง