‘เด่นวิทย์’ แชมป์ไทยแลนด์ โอเพ่น ครองถ้วยพระราชทานรัชกาลที่ 9
เด่นวิทย์ เดวิด บริบูรณ์ทรัพย์ นักกอล์ฟวัย 20 ปีจากชลบุรี คว้าแชมป์ไทยแลนด์ โอเพ่น ครั้งที่ 51 หลังจบสกอร์รอบสุดท้ายอีก 3 อันเดอร์พาร์ 68 รวมสี่วัน 22 อันเดอร์พาร์ 262 เฉือนชนะ 1 สโตรก ครองถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 พร้อมเงินรางวัล 750,000 บาท ในการแข่งขันชิงเงินรางวัลรวม 5 ล้านบาท ณ สนามริเวอร์เดล กอล์ฟ คลับ จังหวัดปทุมธานี
สมาคมกีฬากอล์ฟแห่งประเทศไทยฯ หรือ สกท. จัดการแข่งขันไทยแลนด์ โอเพ่น ครั้งที่ 51 กอล์ฟอาชีพรายการที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย โดยจะเป็นรายการสุดท้ายของ ออลไทยแลนด์กอล์ฟทัวร์ 2023 ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 พร้อมเงินรางวัลรวม 5 ล้านบาท ระหว่างวันที่ 7-10 ธันวาคม 2566 ณ สนามริเวอร์เดล กอล์ฟ คลับ จังหวัดปทุมธานี
การแข่งขันรอบสุดท้ายเมื่อวันที่ 10 ธ.ค.ที่ผ่านมา เด่นวิทย์ เดวิด บริบูรณ์ทรัพย์ ซึ่งออกสตาร์ตด้วยการนำ 5 สโตรก เก็บเพิ่มอีก 3 อันเดอร์พาร์ 68 แต่ก็ยังเพียงพอที่จะคว้าแชมป์รายการนี้ไปครองด้วยชัยชนะ 1 สโตรกที่สกอร์รวม 22 อันเดอร์พาร์ 262 ครองถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 พร้อมเงินรางวัล 750,000 บาท นับเป็นการคว้าแชมป์ออลไทยแลนด์เป็นรายการที่สามต่อจากชัยชนะที่ แม่โจ้ เมื่อปี 2021 และ สุวรรณ กอล์ฟ นครปฐม เมื่อปี 2022
เด่นวิทย์ ซึ่งตลอดทั้ง 72 หลุมของการแข่งขันเสียไปเพียงโบกี้เดียวเท่านั้นที่หลุม 6 ในการเล่นรอบสุดท้าย ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการคว้าแชมป์สัปดาห์นี้ โดยเจ้าตัวกล่าวว่า “ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตีกอล์ฟดีในช่วงนี้เนื่องจากมีความสุขครับ เล่นกอล์ฟแบบมีความสุข เพราะเกือบ 10 เดือนที่ผ่านมาเครียดมาก ไม่ค่อยมีความสุขกับการเล่นกอล์ฟ”
อันดับสองเป็น เนติพงศ์ ศรีทอง นักกอล์ฟวัย 30 ปีจากนครปฐม ที่มาแรงในรอบสุดท้าย โดยเฉพาะการชิพอินถึง 2 หลุมในการเล่นสี่หลุมสุดท้าย เป็นชิพเบอร์ดี้ที่หลุม 15 พาร์ 3 และการชิพอีเกิ้ลที่หลุม 18 พาร์ 5 และจบสกอร์รอบสุดท้าย 7 อันเดอร์พาร์ 64 ขึ้นมาตั้งโจทย์บนคลับเฮ้าส์ที่สกอร์ 21 อันเดอร์พาร์ 263 ก่อนจะโดน เด่นวิทย์ ซึ่งเล่นในก๊วนสุดท้ายแซงชนะไปด้วยเบอร์ดี้บนกรีนหลุมสุดท้าย
ทางด้าน วิชญภัทร สินสร้าง นักกอล์ฟวัย 26 ปีจากนครราชสีมา ที่หวดเข้ามา 8 อันเดอร์พาร์ 63 เป็นสกอร์ที่ดีที่สุดของรอบสุดท้าย ขยับขึ้นมาจบอันดับสามร่วมกับ โคสุเก ฮามาโมโต้ ด้วยสกอร์รวม 20 อันเดอร์พาร์ 264 โดยในรอบสุดท้าย หนุ่มเชียงใหม่วัย 24 ปีตีเข้ามาอีก 6 อันเดอร์พาร์ 65
ส่วน ภูสิทธิ์ ทรัพย์อัประไมย นักกอล์ฟวัย 30 ปีจากราชบุรี ที่ในรอบสุดท้ายเก็บ 6 เบอร์ดี้แบบไม่มีโบกี้ก่อนจบรอบ 6 อันเดอร์พาร์ 65 รวมสี่วันจบอันดับห้าแต่เพียงผู้เดียวด้วยสกอร์ 17 อันเดอร์พาร์ 267 รับเงินรางวัลไปครอง 158,750 บาท ส่งผลให้เงินรางวัลรวมทั้งฤดูกาลขยับเป็น 1,088,303 บาท คว้าแชมป์ทำเงินของออลไทยแลนด์กอล์ฟทัวร์ฤดูกาลนี้ไปครอง โดยมีเงินรางวัลมากกว่า ฉ่างไท้ สุดโสม เพียง 8,632 บาทเท่านั้น
สรุปผลไทยแลนด์ โอเพ่น ครั้งที่ 51 (สนามพาร์ 71)
262 เด่นวิทย์ เดวิด บริบูรณ์ทรัพย์ 67-62-65-68 (เงินรางวัล 750,000 บาท)
263 เนติพงศ์ ศรีทอง 68-63-68-64 (เงินรางวัล 475,000 บาท)
264 วิชญภัทร สินสร้าง 67-67-67-63, โคสุเก ฮามาโมโต้ 68-66-65-65 (เงินรางวัลคนละ 240,625 บาท)
267 ภูสิทธิ์ ทรัพย์อัประไมย 68-65-69-65 (เงินรางวัล 158,750 บาท)
268 ธนภัทร พิชัยกุล 67-67-68-66, จอห์น แคตลิน (สหรัฐฯ) 69-67-64-68 (เงินรางวัลคนละ 126,250 บาท)
270 วีรวิชญ์ นาคประชา 67-71-67-65 (เงินรางวัล 106,000 บาท)
271 ภาณุพล พิทยารัฐ 68-71-67-65, ภวินท์ อิงคะประดิษฐ์ 69-71-66-65, ณัฐวัฒน์ สุวจนกรณ์ 69-65-71-66, มินห์ยอก ยาง (เกาหลีใต้) 69-67-69-66, วรัญญู รัตนไพบูลย์กิจ 70-65-69-67, เอกปริษฐิ์ หวู่ 67-69-68-67, นิวพอร์ต ลาภาโรจน์กิจ 67-67-69-68, วาริษ มั่นธรณ์ 66-69-68-68 (เงินรางวัลคนละ 82,687.50 บาท)
272 ดลภัทรไชย นิยมชน 68-69-69-66, วันชัย หลวงนิติกุล 67-70-67-68, ออสการ์ เซตเตอร์วอลล์ (สวีเดน) 71-67-66-68, ชัพชัย นิราช 64-69-69-70 (เงินรางวัลคนละ 63,750 บาท)